PCT หรือ Post Cycle Therapy พูดง่ายๆ คือการใช้ยาบางอย่างเพื่อช่วยหลังการหยุดใช้ AAS คือแน่นอนว่า AAS ไม่ ใช่ยาเสพติด แต่แน่นอนว่าตัวมันเองได้ทําการ SuppreSS หรือลดการผลิตฮอร์โมนตามธรรมชาติ การที่เราแบบหยุดไปเลยอาจจะทําให้เกิดอาการ “ฮอร์โมนเพศต่ำ” ซึ่งตามมาด้วย กล้ามหาย อารมณ์ไม่ดี อ่อนเพลีย พลังงานหมด หรรมหด ซึ่งเกิดจากการที่ระบบที่ควบคุมการผลิต testosterone มันมีความแบบ ว่ารัดกุมมากๆ ถ้าระดับฮอร์โมนมันเกิน การผลิตจะลดลง แล้วคือการใช้ยาเนี่ย ระดับฮอร์โมนมันจะเกินไปมาก ทําให้เกิดการ Suppress ซึ่งระดับของการ Suppress จะขึ้นอยู่กับ 3 ปัจจัย
- ตัวยาที่ใช้ ตัวยาต่างกัน ระดับของการ Suppress ไม่เท่ากัน ถ้า Tren ก็สูง, anavar, primo ก็ตามประมาณนี้
- ปริมาณตัวยาที่ใช้, เยอะ = Suppress เยอะ
- ระยะเวลาที่ใช้, นาน = Suppress มาก
นอกจากนี้ ปริมาณ estrogen, prolactin ก็ส่งผลต่อการ Suppress ด้วย แต่อย่างเพิ่งตกใจ จากการศึกษาพบว่าการใช้ยานั้น “ไม่ทําให้เป็นหมัน” การ Suppress มันเป็นแค่อาการชั่วคราวซึ่งควรจะหายไปเองในระยะเวลาไม่กี่เดือนไปจนถึงหลายๆ เดือน แต่ปัญหาคือช่วงนั้นฮอร์โมต่ำไง ร่างกายมันไม่ดีแน่ๆ การ PCT เลยถูกคิดขึ้นมาเพื่อให้มันมาไว มีการศึกษาชิ้นนึ่งคือออน Test e 250 mg/week เป็นเวลา 21 week แล้วมันก็มีการวัดค่าต่างๆ หลักๆ พบว่า พอหยุดยา สมองจะไวคือ GnrH, LH จะมาก่อน แต่ testosterone จะยังไม่ขึ้นเพราะว่าตัวไข่มันไม่สามารถ response ได้ ทัน (ตอนใช้ยาไข่มักจะหด) พอไข่มันยังไม่คืนขนาด มันจะรับ Workload ไม่ไหว แต่ก็นั่นแหละ ร่างกายเราแก้เองได้ แต่ก็จะดีกว่าถ้าเราทํา PCT ให้ครบๆ ซึ่งมันจะมีตัวยา อยู่ 3 ตัว ที่ใช้กันหลักๆ คือ
- HCG (ฮอร์โมน LH ที่ถูกสังเคราะห์ขึ้นมา) อย่างที่เคยกล่าวไว้มันก็คือการเลียนแบบ LH ซึ่งมันก็จะมาช่วยเพิ่ม LOAD การทํางานของไข่ ทําให้มันกลับมาได้ขนาดที่ไวกว่าเดิม
- Nolvadex, Clomid (Anti Estrogen) อย่างที่กล่าวไปว่า estrogen มันเป็นตัวยับยั้งการผลิต testosterone การใช้ anti estrogen จะช่วยเพิ่มการหลั่งของ GnrH ซึ่งส่งผลต่อ LH และ testosterone นอกจากนี้ยังช่วยลด GYNO ซึ่งได้แถมมาจากการใช้ยา (จริงๆ GYNO สามารถเกิดได้จากความไม่บาลานซ์ของสัดส่วน Androgen/Estrogen ก็ได้นะ ไม่ได้เกิดจากการใช้ยาที่ทําให้ estrogen สูงอย่างเดียวซึ่งก็จะตอบคําถามว่าทําไมถึงเจ็บนมหลังหยุดยา) ถ้าเทียบ HCG กับ anti estrogen โดนไม่พูดถึงผลข้างเคียง HCG มันจะดูไวกว่า เพราะมันคือการอัด LH ลงไปตรงๆแต่ก็ต้องระวังเพราะถ้าใช้เยอะเกินไปมันจะทําให้ไข่ไม่ตอบสนองต่อ LH ซึ่งจะทําให้การกลับมานั้นยิ่งช้าลงไปอีก แล้ว HCG ทําให้ estrogen สูงขึ้นได้ ซึ่งนําไปสู่ผลข้างเคียงที่มากขึ้น นี่เป็นโปรแกรม PCT ที่ถูกสร้างขึ้นโดย Dr. Micharl Scully ซึ่งผ่านการศึกษาจากผู้ที่ใช้ Test + Deca ในโดสสูงมากเป็นเวลา 3 เดือนแล้วพบว่าผู้ใช้ยาทั้งหมด 19 คน กลับมาผลิตฮอร์โมนได้เป็นปกติหลังหยุดใช้ยา
ตัวยาที่ใช้มี
- HCG 20,000iu (2,000iu วันเว้นวัน)
- Clomiphene Citrate 100 mg 30 วัน
- Tamoxifen Citrate 40 mg 45 วัน จริงๆ เจอหมดนี่ถึงปาดเหงื่อเลย ใช้เงินเยอะ
แต่อย่าเพิ่งตกใจ จากประสบการณ์และการพูดคุย พบว่า คนส่วนมากจะใช้แค่ anti estrogen ไม่ก็ HCG ซึ่งคนพวกนี้ก็ยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหาอะไร ก็หรรมแข็งดีปกติ แล้วถ้าสรุปหลักการของการ PCT คือ มันก็คือแค่เราต้องการจะการจะดึง testes (ไข่) ให้กลับมาเท่าเดิม ซึ่งเอาง่ายๆ anti estrogen = block estrogen ทําให้ LH ขึ้น LH มากระตุ้นไข่ HCG = เข้าไปกระตุ้นโดยตรง ซึ่งถ้าตอนนี้ใครใช้ยามาได้สักพักลองล้วงไข่ตัวเองดู แล้วหันไปล้วนคนข้างๆ ที่ธรรมชาติ เอ้ยไม่ใช่ 555 ถ้ารู้ว่าไข่มันเล็กลงคือการบอกว่ามันถูก suppress การที่จะให้มันกลับมาคือหยุดยาแล้วทําให้ LH ขึ้น ซึ่งก็ทําได้จากการใช้ anti estrogen หรือ HCG ดังนั้นเลยขอสรุปเป็นการส่วนตัวว่า
- ถ้างบไม่จํากัดใช้ตามโปรแกรมข้างบนเลย
- ถ้างบจํากัด แต่พอมีตั้งก็ HCG + Nolvadex (nolvadex มีความแรงมากกว่า ราคาถูกกว่า clomid)
- งบน้อยลงมาอีกก็ nolvadex + clomid
- งบจํากัดสุดๆ ก็ Nolvadex อย่างเดียว ก็ลองเลือกดู แต่ไม่แนะนําให้ใช้ HCG อย่างเดียว
เพราะตัวมันเองไม่ได้ช่วยเรื่องการ anti estrogen แล้วยังเพิ่ม estrogen อีกด้วย อาจจะทําให้ฮอร์โมนป่วนและมีผลข้างเคียงมากขึ้นไปอีก มีหลายมาบอกว่า ออนหนักมา แล้วโคชบอกใช้ HCG ยิงเลย 5000iน ทีเดียว แม่งเอ๊ย อีกวันนึงสิวขึ้นเต็มหลัง แล้วถ้าจะพูดให้รอบด้าน ก็ต้องบอกว่าการ PCT ไม่ใช่ว่าจะแฮปปี้นะ ช่วง PCT เป็นช่วงที่เรียกได้ว่าลําบากทีเดียวเพราะอาจจะเกิดอาการดังต่อไปนี้
- แรงตก กล้ามลด ในบางคน << ใช้ Peptide,HGH,Sarmช่วยได้ แต่ไม่ควรใช้ AAS ทุกตัวยกเว้น Proviron
- อารมณ์ << แก้เอาเอง
- สิว << ใช้สบู่ดีๆ แก้ได้ ยังไม่ต้อง acnotin
- หรรมไม่สู้ศึก << proviron ช่วยคุณได้ เอาง่ายๆ อาการจะคล้ายๆ
ผู้หญิงเป็นประจําเดือนเพราะฮอร์โมนไม่นิ่ง ซึ่งก็ตอบคําถามที่ว่าทําไมสิวแม่งขึ้นตอน PCT แต่แน่นอนว่าคนเรามีทางเลือก ถ้าไม่อยาก PCT ก็มีตัวเลือกอีก 3 ตัว
- ออนตลอดปีตลอดชาติไม่มีวันหยุด อันนี้รู้ๆ กันอยู่ แต่อย่าลืมไปตรวจร่างกายบ้างเด้อ
- blast and cruise คือออนตลอดเหมือนกัน แต่มีช่วงออนหนักสลับเบาเพื่อพักร่างกาย แต่หยุดยาอาจจะงานเข้า
- blast and cruise + TRT คือทํา PCT ในช่วง cruise ออนหนัก พอหนักเสร็จก็มาเบา ช่วงเบาอาจจะใช้แค่เทสโดสน้อยๆ เพื่อกันกล้ามหาย แล้ว TRT ไปด้วย อันนี้เป็นเทคนิคใหม่ จะเรียกว่า TRT เหมือนกับว่ากระตุ้นไข่ไม่ให้หดแบบจัดหนักมากกว่า
จะทํายังไงก็แล้วแต่ แต่โดยส่วนตัวก็ยังอยากแนะนําให้ PCT อยู่ดี พักก็พักไปเลย เพราะอะไรที่อยู่ในร่างกายเรามองไม่เห็น จริงอยู่ว่า AAS เป็นยาที่จัดได้ว่าอยู่ในคลาสที่ปลอดภัยที่สุด fatal overdose ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ (พาราได้นะ กรอกปากนี่ถึงกับตาย) แต่การ Overdose หนักๆ นานๆ สามารถเร่งการเกิดขึ้นของโรคเกี่ยวกับระบบ Cardiovascular ได้ เราก็ควรจะ play safe นะ คือปลอดภัยไว้ก่อน แข่งชนะไปได้ตังไม่กี่บาท ทําอะไรให้พอดีๆ น่าจะดีกว่า
อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่คําแนะนําจากแพทย์ เป็นแค่มุมมองของคนหนึ่งสนใจเรื่องเหล่านี้ ผู้อ่านควรจะศึกษาและตัดสินใจด้วยตนเองหรือด้วยความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ