HGH Growth Hormone Gainzlab
โกรทฮอร์โมน หรือ HGH Growth Hormone Gainzlab เป็นฮอร์โมนที่หลั่งมาจากต่อมไร้ท่อ สร้างจากต่อมพิทูอิทารีภายใต้สมองของเรา เป็นฮอร์โมนแห่งการเจริญวัย ได้รับฉายาว่า “น้ำพุแห่งความหนุ่มสาว” ฮอร์โมนนี้ประกอบด้วย กรดอะมิโน 191 ชนิด เรียงต่อกันเป็นสายโพลีเปปไทด์ HGH ไม่ใช่โปรตีน แต่เป็นฮอร์โมน ทำงานโดยการกระตุ้นเซลล์ในร่างกายให้ผลิตโปรตีน
ฮอร์โมนจะหลั่งได้ตลอดชีวิตของเรา แต่ในแต่ละช่วงอายุก็จะหลั่งได้ไม่เท่ากัน โดยระดับการหลั่งจะหลั่งออกมามากเป็นพิเศษในช่วงวัยเจริญเติบโต หรือ วัยเจริญพันธุ์ และเริ่มน้อยลงเมื่อเข้าสู่วัยชรา และปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมต่างๆในการดำเนินชีวิตเช่น โภชนาการอาหาร ความเครียด การนอนหลับ การออกกำลังกาย ก็ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกายเรา จากการวิจัยพบว่ามีการหลั่งฮอร์โมน hgh ลดลงถึง 14 % ในทุกๆ 10 ปีเลยทีเดียว
ฮอร์โมนนี้แตกต่างจากฮอร์โมนชนิดอื่น เนื่องจากสามารถกระตุ้นทุกระบบในร่างกายให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมีการเผาผลาญกิจกรรมของสมอง และระบบย่อยสลายฮอร์โมนนี้ จึงมีผลต่อความอ่อนเยาว์ความกระฉับกระเฉงของร่างกายเรานั่นเอง
Hgh มีความสำคัญมากต่อการเจริญเติบโตของร่างกายเราโดยเฉพาะวัยเด็กที่ต้องการเจริญเติบโตมากเป็นพิเศษ ฮอร์โมนนี้ช่วยควบคุมการเจริญเติบโตของกระดูกให้แข็งแรง จนกระทั่งถึงช่วงอายุ 25 ปีเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นหากร่างกายมีการผลิตฮอร์โมนนี้มาก จะทำให้เด็กเติบโตสูงวัย ไม่แคระแก่น ช่วยเนื้อเยื่อต่างๆในร่างกายแข็งแรง กล้ามเนื้อแน่นเสริมสร้างภูมิต้านทานการพัฒนาการด้านสมองคงความหนุ่มสาว และยังช่วยเสริมสมรรถภาพทางเพศได้อีกด้วย
นอกจาก hgh แล้ว ในต่อมไร้ท่อยังผลิตฮอร์โมนตัวอื่นๆอีกมากมาย ดังนี้ (แค่เห็นชื่อต่อมละจะไม่แปลกใจทำไมถึงเกี่ยวข้องกับการสร้างกล้ามเนื้อ)
- ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (Testosterone Hormone) เป็นฮอร์โมนเพศชายที่ผลิตจากต่อมไร้ท่อ hypothalamus(ไฮโปทาลามัส) ที่ไปกระตุ้นสร้างฮอร์โมน GNRH (Gonadotropin-releasing hormone) เพื่อไปกระตุ้นต่อมลูกหมากให้สร้างฮอร์โมนนี้ขึ้นมาฮอร์โมนนี้จะมีการหลั่งมากสุดในช่วงเช้าตี 5 ถึง 7 โมงเช้า ในเพศชายจะมีการลดลงเมื่อเข้าสู่อายุในช่วง 40-47 ปีจะลดลง 1% ในทุกๆปีช่วงอายุนี้นั่นเองคือการเข้าสู่วัยทองในเพศชายประโยชน์ของฮอร์โมนนี้คือช่วยกระตุ้นความต้องการทางเพศควบคุมการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อผิวหนังกระดูกเม็ดเลือดและอวัยวะเพศ แม้กระทั่งการเจริญเติบโตของหนวดเคราเส้นผมเสริมการทำงานของสมองด้านสติปัญญาความสามารถในการเข้าใจและการเรียนรู้ HGH มีความเกี่ยวข้องกับฮอร์โมนนี้จะสังเกตได้ว่าหากเราแก่ลงเมื่อผลิต GHได้น้อยลงทำให้ร่างกายเรื่องเสื่อมสมรรถภาพผู้ชายจะเริ่มขาดฮอร์โมนนี้และอาจพบปัญหาต่อมลูกหมากโตตามมาได้
- ฮอร์โมนเอสโตรเจน(Estrogen) เป็นฮอร์โมนที่มีความสำคัญที่สุดของเพศหญิงผลิตจากรังไข่ในเพศชายสามารถผลิตได้จากต่อมลูกหมากเช่นกัน แต่มีปริมาณเล็กน้อยเท่านั้น ฮอร์โมนเอสโตรเจนนี้มีหน้าที่ทำให้ผู้หญิงเป็นผู้หญิง มีเต้านมมีผิวพรรณนุ่มนวล เตรียม พร้อมสำหรับความเป็นเพศแม่ ฮอร์โมนตัวนี้มีผลกับทุกระบบในร่างกาย ช่วยเรื่องการควบคุมสมอง ในผู้หญิงวัยทองหรือสตรีที่มีการหมดประจำเดือนเป็นเวลานานกว่า 1 ปีหรือช่วงอายุ 40-50 ปีขึ้นไป ซึ่งมักจะขาดฮอร์โมนตัวนี้ทำให้มีอาการร้อนๆหนาวๆวูบวาบไม่สบายตัวหงุดหงิดง่ายอารมณ์แปรปรวน ดังนั้นเมื่อไปพบแพทย์จึงมักให้รับประทานฮอร์โมนตัวนี้เสริมเพื่อรักษาอาการวัยทอง นอกจากนี้ฮอร์โมนเอสโตรเจนยังช่วยเรื่องการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อในร่างกายให้สมบูรณ์ สร้างความชุ่มชื่น ให้แก่ช่องคลอดรวมถึงบำรุงเส้นผมและผิวพรรณ อีกทั้งยังลดปัญหากระดูกพรุนได้อีกด้วยฮอร์โมนตัวนี้ก็เกี่ยวเนื่องกับระดับ hgh เช่นเดียวกันหาก hgh ลดต่ำก็ทำให้ฮอร์โมนเอสโตรเจนไม่สมดุลส่งผลให้เข้าสู่วัยทองอย่างรวดเร็วและทำให้เกิดปัญหาวัยทองหลายๆด้าน
- ฮอร์โมนคอร์ปัส ลูเทียม (Corpus Luteum Hormone) เป็นฮอร์โมนของเพศหญิงที่สำคัญตัวหนึ่งเนื่องจากฮอร์โมนตัวนี้ช่วยกระตุ้นการเจริญ ของเยื่อบุชั้นในของมดลูก เมื่อระหว่างที่มีประจำเดือนจะช่วยให้ผนังมดลูกหนาขึ้นช่วยให้มดลูกเตรียมความพร้อมที่จะให้ไข่ที่ปฏิสนธิแล้วฝังตัวพร้อมสำหรับการตั้งครรภ์ มดลูกมีการขยายตัวหรือเมื่อตั้งครรภ์แล้วจะกระตุ้นให้เนื้อเยื่อบริเวณหน้าอกขยายใหญ่ขึ้นกระตุ้นให้ต่อมน้ำนมเจริญมากขึ้น จะรู้สึกขัดที่บริเวณเต้านมเต้านมขยายใหญ่ขึ้นฮอร์โมนตัวนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมในผู้หญิงวัยทองได้อีกด้วย
- ฮอร์โมนไทรอยด์ (Thyroid Gland Hormone) ฮอร์โมนไทรอยด์จากต่อมไร้ท่อตัวนี้หลายคนอาจจะคุ้นชื่ออยู่บ้างกับโรคไทรอยด์ ตัวนี้จะอยู่บริเวณหน้ากระดูกคออยู่ด้านหน้าของกล่องเสียงติดกับบริเวณคอหอยเป็นต่อมไร้ท่อที่มีขนาดใหญ่ที่สุดมีลักษณะเป็นสองพู เชื่อมด้วย คอคอดหรืออิสมัส(isthmus) ที่ตรงกลางฮอร์โมนนี้ สามารถดึงไอโอดีนจากกระแสเลือดให้เข้าสู่เซลล์ได้ในทารกช่วยควบคุมการเจริญเติบโตและการทำงานของสมองช่วยควบคุมอวัยวะต่างๆและเนื้อเยื่อเจริญเติบโตและกลไกการเผาผลาญพลังงานของเซลล์ให้เป็นปกติหากขาดฮอร์โมนชนิดนี้จะทำให้มีการพัฒนาช้าลง ร่างกายขาดสมดุลอาจจะอ้วนขึ้นผิวพรรณและเส้นผมแห้งไม่แข็งแรงหรือมีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจมากขึ้น
- เมลาโทนิน(Melatonin) เป็นฮอร์โมนอีกชนิดหนึ่งที่ผลิตจากสารเซโรโทนิน (Serotonin)ที่เซลล์ไพเนียล (Pinealocytes) หลั่งมาจากต่อมไพเนียล (Pineal Gland) เป็นส่วนหนึ่งของสมองส่วนกลาง ฮอร์โมนตัวนี้ทำหน้าที่คล้ายกับยานอนหลับทำหน้าที่ช่วยประสานงานกับระบบนาฬิกาชีวภาพของร่างกายเราช่วยให้หลับสนิทคนที่ขาดการพักผ่อนมักจะขาดฮอร์โมนตัวนี้ครับ เมื่อฉลองได้รับการพักผ่อนจะมีประสิทธิภาพในการทำงานลดอาการอ่อนเพลียอีกทั้งฮอร์โมนตัวนี้สามารถต้านอนุมูลอิสระลดความเสื่อมในเซลล์และของเสียจากการเผาผลาญพลังงานในร่างกายในคนที่เดินทางบ่อยๆฮอร์โมนตัวนี้จะช่วยลดอาการอ่อนเพลียจากการข้ามช่วงเวลาหรืออาการ jet lag ได้
- อินซูลิน (Insulin) เป็นฮอร์โมนชนิดหนึ่งในร่างกายผลิตจากเซลล์ตับอ่อนชนิดไอเลทออฟแลงเกอร์แฮนด์ (Islets of Langerhans)หรือ เบต้าเซลล์ ทำหน้าที่นำน้ำตาลกลูโคสจากในกระแสเลือดเข้าสู่เนื้อเยื่อต่างๆของร่างกาย เป็นฮอร์โมนที่สำคัญในการควบคุมการเผาผลาญพลังงานและควบคุมน้ำตาลส่วนเกินในตับไม่ให้เปลี่ยนเป็นไขมันและสะสมพลังงานในรูปของไกลโคเจน(Glycogen)ที่ตับ หากขาดฮอร์โมนตัวนี้ จะทำให้น้ำตาลในเลือดสูง เนื่องจากร่างกายขาดประสิทธิภาพในการนำน้ำตาลมาใช้ประโยชน์ได้ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานและอาจมีการสลายสารอาหารโปรตีนและไขมันผิดปกติร่วมอีกด้วยช่วยให้เซลล์ดูดซึมกลูโคสที่เกิดจากการเผาผลาญอาหาร
- สเตียรอยด์ (Dehydroepian drosterone หรือ DHEA) เป็นฮอร์โมนที่มีมากที่สุดจากต่อมหมวกไตจัดเป็นกลุ่มฮอร์โมนที่ช่วยชะลอความแก่ได้เช่นกัน ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิต้านทานร่างกายจากการติดเชื้อแบคทีเรียช่วยควบคุมการทำงานของตับและอวัยวะต่างๆปรับสมดุลความดันโลหิตและช่วยสร้างฮอร์โมนเพศเช่นเอสโตรเจนและเทสโทสเตอโรน ช่วยต้านการเกิดมะเร็งและลดความเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวานได้
ฮอร์โมนต่างๆจากต่อมไร้ท่อเหล่านี้ ช่วยทำให้ร่างกายเราแข็งแรงปรับความสมดุลและอีกคุณสมบัติที่ขาดไม่ได้คือช่วยในเรื่องของการชะลอความแก่ได้ด้วยโดยเฉพาะฮอร์โมนที่เด่นในเรื่องนี้ที่สุดคือ HGH นั่นเอง
จากการวิจัยทางวิทยาศาสตร์พบว่าเมื่อเรามีอายุมากขึ้นการหลั่งโกรทฮอร์โมนจะลดลงด้วยเช่นกันเมื่ออายุ 21 ปีระดับโกรทฮอร์โมนจะเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่องเมื่อย่างเข้าสู่อายุ 40 ปี ระดับของฮอร์โมนนี้จะต่ำลงจนไม่สามารถมีบทบาทในการควบคุมการทำงานของเซลล์ในร่างกายส่วนต่างๆเช่นผิวหนังเนื้อเยื่อสมองและอวัยวะสำคัญส่วนอื่นๆเมื่ออายุ 70 ปีอวัยวะต่างๆในร่างกายจะมีการทำงานที่ลดลงไปอีกถึง 30% เช่นสมองตับหัวใจเสื่อมสมรรถภาพไปตามกาลเวลาทั้งความสามารถในการทำงานภูมิต้านทานในการป้องกันตนเองจากเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมภายนอกการผลิตฮอร์โมนต่างๆโดยเฉพาะโกรทฮอร์โมนจะลดลงอย่างมากจนเมื่ออายุเข้า 90 ปีอวัยวะบางส่วนเริ่มทำงานไม่ปกติหรือหยุดการทำงาน สมองฝ่อหดเล็กลงเหลือขนาดเท่าเด็กอายุ 3 ปีระบบประสาทต่างๆเสื่อมลง
จากการวิจัยทดลองพบว่าหากได้รับสารอาหารที่บำรุงการให้สามารถหลั่งโกรทฮอร์โมนได้สูงเป็นเวลาติดต่อกันนาน 6 เดือนจะทำให้ร่างกายได้รับโกรทฮอร์โมนที่เพียงพอและจะทำให้ร่างกายสามารถซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอต้านทานโรคต่างๆได้ดีคืนความเป็นหนุ่มสาวได้ถึงอย่างน้อย 10 ปีเลยทีเดียว
ร่างกายคนเราเริ่มผลิตโกรทฮอร์โมนจากต่อมใต้สมองในช่วงอายุต่ำกว่า 20 ปีได้สูงที่สุดเพื่อให้สัมพันธ์กับการเจริญเติบโตของร่างกายเมื่ออยู่ในท้องแม่ปริมาณโกรทฮอร์โมนจะสูงขึ้นมากที่สุด และจะเริ่มลดลงเมื่อเริ่มเข้าสู่วัยเด็กตามลำดับพอเริ่มเข้าสู่วัยรุ่นโกรทฮอร์โมนจะกลับมามากขึ้นอีกครั้ง
ฮอร์โมนนี้จะหลั่งในขณะที่เรานอนหลับช่วยกระตุ้นการยืดตัวทำให้สูงขึ้นแต่วัยรุ่นส่วนใหญ่มักจะนอนดึกหรือทานอาหารที่มีประโยชน์น้อยทำให้การหลั่งฮอร์โมนนี้ไม่ค่อยเพียงพอต่อความต้องการนักเมื่ออายุ 30 ปีขึ้นไปการหลั่งโกรทฮอร์โมนจะลดลง 40% ของฮอร์โมนที่หลังในคนอายุ 20 ปีในบางรายอาจจะไม่มีการหลั่งโกรทฮอร์โมนออกมาเลยก็ได้ เมื่อร่างกายขาดฮอร์โมนนี้ทำให้เสียความสมดุลการทำงานของอวัยวะต่างๆลดลง อ่อนแอและการสร้างกล้ามเนื้อมีประสิทธิภาพที่ถดถอยไปด้วยนั่นเอง
คุณประโยชน์ของโกรทฮอร์โมน HGH Growth Hormone Gainzlab
โกรทฮอร์โมนถูกค้นพบเมื่อประมาณปี 1920 ประโยชน์ของโกรทฮอร์โมนมีอย่างมากมายแม้กระทั่งในปัจจุบันนี้ก็ยังมีการค้นพบคุณประโยชน์ใหม่ๆเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ต่อมใต้สมองพิทูอิตารี่ ทำหน้าที่หลังโกรทฮอร์โมนและมีผลต่อร่างกายเราอย่างมาก ได้แก่ โกรทฮอร์โมนช่วยเสริมสร้างสังเคราะห์โปรตีนเพื่อสร้างเซลล์เนื้อเยื่อเช่นการซ่อมแซมฟื้นฟูกล้ามเนื้อซึ่งเป็นวิธีสร้างกล้ามเนื้อใหม่
จากการวิจัยชี้ให้เห็นว่าโกรทฮอร์โมนทำงานเกี่ยวข้องกับระบบเผาผลาญไขมันในร่างกายและการดึงพลังงานไปใช้ในเซลล์ต่างๆของร่างกาย การวิจัยทดลองในผู้ที่มีน้ำหนักเกิน ผู้เชี่ยวชาญในการบำบัดผู้ที่ลดน้ำหนักได้นำโกรทฮอร์โมนไปใช้ในการสร้างมวลกล้ามเนื้อระหว่างไดเอท
- ช่วยปรับรูปแบบการนอนหลับทำให้นอนหลับได้สนิทขึ้นลดจำนวนครั้งการตื่นในกลางดึก และมีช่วง REM ของการนอนหลับที่ดีขึ้น
- โกรทฮอร์โมนช่วย ให้ร่างกายมีกำลังมากขึ้น
- ช่วยสมรรถนะทางเพศให้ดีขึ้นนำไปใช้กับผู้ที่มีอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
- ช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับกระดูก
- ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับหัวใจและไต
อย่างที่กล่าวข้างต้น เราจะเห็นได้ว่าคุณนะประโยชน์ของโกรทฮอร์โมนมีหลายด้านเมื่อเทียบกับ เทสโทสเตอโรน แล้วโกรทฮอร์โมนยังถือไพ่เหนือกว่าในด้านที่ #ไม่ใช่สารกระตุ้น และไม่มีผลข้างเคียงถ้าใช้ในปริมาณที่กำหนด
วิธีเพิ่มโกรทฮอร์โมนในร่างกาย
การเพิ่มโกรทฮอร์โมนในร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบด้วยสมดุล 4 อย่างคือ
- การออกกำลังกาย
- การพักผ่อน
- โภชนาการสารอาหาร
- การเสริมด้วยอาหารเสริม
การออกกำลังกาย
วิธีการแรกที่จะช่วยให้ร่างกายหลังโกรทฮอร์โมนได้อย่างเป็นธรรมชาติคือการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะการออกกำลังกายอย่างหนัก อย่างที่ผู้ที่นิยมสร้างกล้ามเนื้อถนัดกัน กิจกรรมที่ต้องใช้พลังงานเยอะๆ การได้ใช้กำลังให้ร่างกายได้ล้าเป็นระยะเวลานานๆสิ่งเหล่านี้เป็นกุญแจหลักของการเสริมการหลั่งโกรทฮอร์โมนให้กับร่างกายของเราเพราะว่ากิจกรรมเหล่านี้ทำให้ร่างกายต้องการการสังเคราะห์โปรตีนในกรณีที่เรามีพลังงานไม่เพียงพอจึงเกิดการเผาผลาญและสลายไขมันเพื่อที่จะเติมเต็มการลดลงของไกลโคเจนในร่างกาย
นี่เป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพที่สุดวิธีหนึ่งในการหลังโกรทฮอร์โมนให้กับร่างกายโดยมีเป้าหมายหลักเพื่อที่จะสร้างกล้ามเนื้อ จากการศึกษาทางสรีรวิทยาได้กล่าวว่าเราสามารถควบคุมการหลั่งโกรทฮอร์โมนโดยเชื่อมโยงกับวิธีการออกกำลังกายนี้ได้
โดยข้อแนะนำ ของเราคือไม่ควรออกกำลังกายเกิน 45 นาที เพราะนั่นคือเวลาที่ โกรทฮอร์โมนหยุดการหลั่งและฮอร์โมนคอร์ติซอลหรือฮอร์โมนที่เกี่ยวเนื่องกับสภาวะความเครียดของร่างกายเริ่มหลั่งแทน ถ้าคุณออกกำลังกาย 40 นาทีต่อเนื่องกันเป็นเวลา 1 เดือน และเพิ่มขึ้น อีก 2 นาทีในทุกๆเดือนต่อมา หลังจากผ่านไป 10 เดือนคุณก็จะสามารถออกกำลังกายเป็นระยะเวลา 1 ชั่วโมง ได้โดยไม่ ทำให้เกิดสภาวะไม่ใช้พลังงาน หรือสภาวะที่ทำให้เกิดการสลายของเซลล์เนื้อเยื่อที่เรียกว่า Catabolic state วิธีนี้ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าได้ผลจริงแต่ยังไม่เคยมีการรับรองถึงขีดจำกัดของช่วงเวลาการฝึกแต่ก็แนะนำว่าไม่มีประโยชน์อะไรเท่าที่ควรหากมีการออกกำลังกาย ติดต่อกันเพื่อสร้างกล้ามเนื้อเกิน 1 ชั่วโมงซึ่งไม่ว่าผู้ที่ฝึกอย่างหนักหรือแบบปานกลางก็สามารถฝึกได้ถึง 25 เซ็ตในช่วงเวลา 1 ชั่วโมงนี้
การพักผ่อน
ในช่วงเวลาการหลับนอนร่างกายของเราจะหลั่งโกรทฮอร์โมนออกมาได้ถึง 75% ของปริมาณต่อวันและโดยส่วนใหญ่จะหลั่งออกมาในช่วง REM ของการหลับนอน ดังนั้นเราจึงควรเน้นสุขอนามัย ในการหลับให้ดีเป็นพิเศษการงีบหลับเพียงชั่วคู่จะไม่ทำให้เราอยู่ในสภาวะที่หลับลึกเพียงพอที่จะช่วยการผลิตโกรทฮอร์โมน โกรทฮอร์โมนในช่วงนี้จะไม่ให้ผลสำคัญในเรื่องของการสร้างกล้ามเนื้อเท่าวิธีอื่นๆเพราะเป็นการสร้างที่ตอบรับกับการนอนหลับและการสร้างพลังงานเมื่อตื่นขึ้นมา ซึ่งไม่ใช่การตอบรับกับการต้องการสร้างพลังงานเพิ่มเติมให้กับร่างกาย ตามเป้าหมายของผู้ที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อ
แต่อย่างไรก็ตาม Growth Hormone จำนวนมากที่หลั่งในเวลานี้จะช่วยให้การทำงานของโกรทฮอร์โมนที่หลังด้วยวิธีอื่นๆมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นการนอน 8-10 ชั่วโมงต่อวันเป็นสิ่งจำเป็นหากคุณต้องการเพิ่มกล้ามเนื้อหรือรูปร่างของคุณให้ดูดี และการนอนหลับที่สม่ำเสมอยังช่วยให้ วงจรการนอนหลับในระยะ REM มีประสิทธิภาพและสร้างโกรทฮอร์โมนได้ดียิ่งขึ้นเช่นหากคุณมักจะนอนตื่นสายในช่วงวันหยุดแนะนำว่าการเปลี่ยนมาตื่นในเวลาปกติเหมือนทุกๆวันจะช่วยให้วงจรในร่างกายทำงานได้ดีขึ้นอีกด้วย มิฉะนั้น การนอนหลับที่ไม่สม่ำเสมอจะทำให้วงจรการนอนหลับและการหลั่งโกรทฮอร์โมนได้ประสิทธิภาพลง
โภชนาการสารอาหาร
ในส่วนนี้เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในการสร้างโกรทฮอร์โมนให้กับร่างกายและเป็นส่วนสำคัญสำหรับนักเพาะกายที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อ และให้มีการหลั่งฮอร์โมนอย่างเป็นธรรมชาติที่สุดแต่อย่างไรก็ตามอย่าลืมว่าการพักผ่อนนอนหลับและการออกกำลังกายตามข้างต้น ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ควรทำให้ เพียงพอเพื่อเสริมกันอีกด้วย สารอาหารที่สำคัญที่สุดตัวหนึ่งในการหลั่งโกรทฮอร์โมนคือกรดอะมิโน แต่เพื่อให้กรดอะมิโนนี้ทำงานได้ดีที่สุดคุณต้องแน่ใจว่าในอาหารของคุณประกอบด้วยไขมันสะอาด 15-20% กรดอะมิโนที่สำคัญสำหรับการหลั่งโกรทฮอร์โมนเรียงตามลำดับความสำคัญจากมากสุดไปน้อยสุดได้แก่
- แอลอาร์จีนีน5-8กรัม
- แอลออร์นิทีน4-7กรัม
- แอลกลูตามีน5กรัม
- ไกซีน3-10กรัม
- ไลซีนในปริมาณน้อย
- OKG3กรัม
- Bcaa 3-6กรัม
นอกจากนี้สารอาหารอื่นๆที่ช่วยการหลั่งโกรทฮอร์โมนได้แก่วิตามินซี วิตามินบี 3 และสารต้านอนุมูลอิสระส่วนใหญ่แนะนำทานสารอาหารเหล่านี้ในช่วงเวลา 45 นาทีก่อนการออกกำลังกาย เพื่อให้ ได้คุณประโยชน์ที่มากที่สุดหรือแนะนำทานก่อนนอนหรือหลังตื่นนอนในวันที่คุณไม่ได้ออกกำลังกายและควรทานเวลาท้องว่าง
จากการที่ได้เรียนรู้ในส่วนของโกรทฮอร์โมนที่เป็นข้อมูลเบื้องต้นข้างบนแล้ว เราได้เห็นกันไปแล้วว่ามันมีผลต่อการเจริญเติบโตโดยตรงทั้งมวลกระดูกและมวลกล้ามเนื้อที่จะถูกสร้างขึ้นจาก HGH ล้วนๆ
ในเมื่อรู้แบบนี้แล้วการแพทย์สมัยใหม่จะมีเหรอที่จะไม่คิดทางลัดในการเพิ่มสมรรถภาพของโกรทฮอร์โมน และจะมีเหรอ ที่มีคำว่าสร้างกล้ามมาเกี่ยวข้องแล้วจะไม่ถูกดึงมาใช้ในศาสตร์การกีฬาเพาะกายในรูปแบบของยาฉีด
การฉีด หรือ กิน HGH Growth Hormone Gainzlab
ในศาสตร์แห่งการเพาะกาย ถูกนำสารกระตุ้นตัวนี้เข้ามาร่วมด้วย เป็นที่แพร่หลาย แต่ทว่าราคาแพงกว่าสเตียรอยด์ 3-4 เท่า ทำให้คนบางกลุ่มมองข้ามการใช้โกรทฮอร์โมนไป แต่มันมีอะไรดี ถึงได้แพงมากกว่าสเตียรอยด์ เสียงตอบรับแทบจะ 100% ว่าร่างกายเกิดความแตกต่างภายใน 2 เดือนที่ใช้ ตั้งแต่ผิวที่ใสขึ้น กระดูกข้อมือที่หนาขึ้นสังเกตได้ชัด โดยเอฟเฟคที่ชัดๆจะต้องใช้โกรทฮอร์โมนวันละ 2-4 IU เป็นอย่างต่ำ ซึ่งในกรณีที่ร่างกายเกิดความเคยชินแล้วอาจจะใช้มากกว่าเดิมถึง 2-3 เท่า (แต่ในกรณีที่ใช้เกิน 10IU ขึ้นไปควรมีอินซูลินใช้ควบคู่ไปด้วยนะ)
วิธีการใช้โกรทฮอร์โมนที่จะได้ผลมากที่สุด จากการวิจัยพบว่าโกรทฮอร์โมนจะทำงานทั้งในด้านการสร้างกล้ามเนื้อและการทำลายไขมันได้ดีที่สุดคือ ต้องฉีดทุกวันในช่วงภาวะน้ำตาลต่ำ ซึ่งช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะฉีด Human Growth Hormone (HGH) เข้าสู่ร่างกายคือตอนท้องว่าง หรืออีกวิธี คือตอนก่อนนอน ย้ำว่าก่อนนอนไม่ใช่ว่าใช้แล้วก้มตัวลงไปกดมือถือ เพราะเมื่อคุณหลับโกรทฮอร์โมนจะทำงาน และ การฉีดโกรทฮอร์โมนไปกระตุ้นก่อนที่ฮอร์โมนธรรมชาติจะทำงานเต็มที่ ทำให้ผลที่ได้ไปต่างจากการฉีดตอนท้องว่างเลย โกรทฮอร์โมนสามารถใช้ได้ดีทั้งช่วง Bulking และ cutting เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่มากขึ้นควรใช้ควบคู่กับสเตียรอยด์หากจัดไซเคิลได้ถูกวิธี
ตัวอย่าง Bulking :
- Hgh 2-6 iu หรือ MK677 = 20-50 mg/วัน + Test E,Test C, Sustanon 300-600 mg/week (8-10 week)
- Hgh 2-6 iu หรือ MK677 = 20-50 mg/วัน + Dbol หรือ Tbol 30-50 mg/วัน (6-8 week)
ตัวอย่าง Cutting:
Reviews
There are no reviews yet.