Gainzlab IGF-1 คืออะไร?
Gainzlab IGF-1 หรือ Insulin-like Growth Factor-1 คือ เปปไทด์ฮอร์โมน ที่มีสูตรโครงสร้างคล้ายอินซูลิน หรือ เรียกได้ว่าเป็นตัวกระตุ้นการเจริญเติบโตที่มีโครงสร้างคล้ายอินซูลิน เป็นฮอร์โมนการเจริญเติบโตจากธรรมชาติ มีบทบาทสำคัญ ในการกระตุ้นการเจริญเติบโตของร่างกาย ซึ่ง IGF-1 จะทำงานร่วมกันกับโกรทฮอร์โมน (HGH) โดยโกรทฮอร์โมน จะออกฤทธิ์โดยตรงต่อเซลล์ต่างๆ และออกฤทธิ์ทางอ้อมผ่านโซมาโทมีดิน (somatomedin) หรือโดยเฉพาะ IGF-1
ซึ่งโกรทฮอร์โมนจะไปกระตุ้นให้มีการสร้าง IGF-I โดยส่วนใหญ่เกิดที่ตับ จากนั้น IGF-I จะไปออกฤทธิ์ที่อวัยวะเป้าหมายอีกทีหนึ่ง เพื่อการกระตุ้นการเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยการกระตุ้นเซลล์ ขยายขนาดของกล้ามเนื้อ และสามารถช่วยกระตุ้นการสังเคราะห์โปรตีน ที่มีศักยภาพในเนื้อเยื่อ เช่น กล้ามเนื้อ กระดูก และกระดูกอ่อน ช่วยในการเพิ่มขนาดกระดูก และความหนาแน่นของกระดูก โดยโกรทฮอร์โมน จะหลั่งจากต่อมใต้สมอง และส่งสัญญาณไปที่ตับ เพื่อกระตุ้นการสร้าง IGF-1 ส่งผลให้ปลายกระดูกขยายยาวขึ้น ทำให้สูงขึ้นได้
IGF-1 จะหลั่งได้ดี เมื่อร่างกายได้ออกกำลังกาย ที่มีความเข้มข้นสูง อย่างสม่ำเสมอ และ IGF-1 ขึ้นสูงได้ทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน ในขณะที่ Growth Hormone หลั่งได้ดีที่สุดตอนเรานอนหลับสนิท เฉพาะในตอนกลางคืน หรือ ช่วงเวลาประมาณ 22.00 – 02.00 น.
IGF-1 จะกระตุ้นการเผาผลาญไขมันในร่างกาย โดยกระตุ้นเซลล์ไขมันให้สลายไตรกลีเซอไรต์ (Triglyceride) ทำให้ได้กรดไขมันอิสระเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้เซลล์กล้ามเนื้อนำกรดไขมันอิสระ ไปใช้เป็นพลังงานแทนกลูโคสได้มากขึ้น เซลล์ไขมันจึงมีขนาดเล็กลง
ประโยชน์ของ Gainzlab IGF-1 ต่อร่างกายเรา
- สร้างและซ่อมแซมเซลล์ประสาทที่เสื่อมหรือตายไป
- กระตุ้นการสร้างเซลล์กล้ามเนื้อและเพิ่มขนาด ทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น ไม่เสื่อมได้ง่าย
- ทำให้เซลล์กล้ามเนื้อดูดซึมกรดอะมิโน น้ำตาลกลูโคส ไปใช้งานได้ดีขึ้น
- ทำให้เซลล์กระดูกแข็งแรงขึ้น
- เผาผลาญไขมันส่วนเกินเป็นพลังงาน
- ทำหน้าที่แทนฮอร์โมนอินซูลินได้ในระดับหนึ่ง
- ลดระดับ LDL
- กระตุ้นการสร้าง Stemcell
___________________________________
คุณประโยชน์ของโกรทฮอร์โมน
โกรทฮอร์โมนถูกค้นพบเมื่อประมาณปี 1920 ประโยชน์ของโกรทฮอร์โมนมีอย่างมากมายแม้กระทั่งในปัจจุบันนี้ก็ยังมีการค้นพบคุณประโยชน์ใหม่ๆเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ต่อมใต้สมองพิทูอิตารี่ ทำหน้าที่หลังโกรทฮอร์โมนและมีผลต่อร่างกายเราอย่างมาก ได้แก่ โกรทฮอร์โมนช่วยเสริมสร้างสังเคราะห์โปรตีนเพื่อสร้างเซลล์เนื้อเยื่อเช่นการซ่อมแซมฟื้นฟูกล้ามเนื้อซึ่งเป็นวิธีสร้างกล้ามเนื้อใหม่
จากการวิจัยชี้ให้เห็นว่าโกรทฮอร์โมนทำงานเกี่ยวข้องกับระบบเผาผลาญไขมันในร่างกายและการดึงพลังงานไปใช้ในเซลล์ต่างๆของร่างกาย การวิจัยทดลองในผู้ที่มีน้ำหนักเกิน ผู้เชี่ยวชาญในการบำบัดผู้ที่ลดน้ำหนักได้นำโกรทฮอร์โมนไปใช้ในการสร้างมวลกล้ามเนื้อระหว่างไดเอท
- ช่วยปรับรูปแบบการนอนหลับทำให้นอนหลับได้สนิทขึ้นลดจำนวนครั้งการตื่นในกลางดึก และมีช่วง REM ของการนอนหลับที่ดีขึ้น
- โกรทฮอร์โมนช่วย ให้ร่างกายมีกำลังมากขึ้น
- ช่วยสมรรถนะทางเพศให้ดีขึ้นนำไปใช้กับผู้ที่มีอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
- ช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับกระดูก
- ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับหัวใจและไต
อย่างที่กล่าวข้างต้น เราจะเห็นได้ว่าคุณนะประโยชน์ของโกรทฮอร์โมนมีหลายด้านเมื่อเทียบกับ เทสโทสเตอโรน แล้วโกรทฮอร์โมนยังถือไพ่เหนือกว่าในด้านที่ #ไม่ใช่สารกระตุ้น และไม่มีผลข้างเคียงถ้าใช้ในปริมาณที่กำหนด
วิธีเพิ่มโกรทฮอร์โมนในร่างกาย
การเพิ่มโกรทฮอร์โมนในร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบด้วยสมดุล 4 อย่างคือ
- การออกกำลังกาย
- การพักผ่อน
- โภชนาการสารอาหาร
- การเสริมด้วยอาหารเสริม
การออกกำลังกาย
วิธีการแรกที่จะช่วยให้ร่างกายหลังโกรทฮอร์โมนได้อย่างเป็นธรรมชาติคือการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะการออกกำลังกายอย่างหนัก อย่างที่ผู้ที่นิยมสร้างกล้ามเนื้อถนัดกัน กิจกรรมที่ต้องใช้พลังงานเยอะๆ การได้ใช้กำลังให้ร่างกายได้ล้าเป็นระยะเวลานานๆสิ่งเหล่านี้เป็นกุญแจหลักของการเสริมการหลั่งโกรทฮอร์โมนให้กับร่างกายของเราเพราะว่ากิจกรรมเหล่านี้ทำให้ร่างกายต้องการการสังเคราะห์โปรตีนในกรณีที่เรามีพลังงานไม่เพียงพอจึงเกิดการเผาผลาญและสลายไขมันเพื่อที่จะเติมเต็มการลดลงของไกลโคเจนในร่างกาย
นี่เป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพที่สุดวิธีหนึ่งในการหลังโกรทฮอร์โมนให้กับร่างกายโดยมีเป้าหมายหลักเพื่อที่จะสร้างกล้ามเนื้อ จากการศึกษาทางสรีรวิทยาได้กล่าวว่าเราสามารถควบคุมการหลั่งโกรทฮอร์โมนโดยเชื่อมโยงกับวิธีการออกกำลังกายนี้ได้
โดยข้อแนะนำ ของเราคือไม่ควรออกกำลังกายเกิน 45 นาที เพราะนั่นคือเวลาที่ โกรทฮอร์โมนหยุดการหลั่งและฮอร์โมนคอร์ติซอลหรือฮอร์โมนที่เกี่ยวเนื่องกับสภาวะความเครียดของร่างกายเริ่มหลั่งแทน ถ้าคุณออกกำลังกาย 40 นาทีต่อเนื่องกันเป็นเวลา 1 เดือน และเพิ่มขึ้น อีก 2 นาทีในทุกๆเดือนต่อมา หลังจากผ่านไป 10 เดือนคุณก็จะสามารถออกกำลังกายเป็นระยะเวลา 1 ชั่วโมง ได้โดยไม่ ทำให้เกิดสภาวะไม่ใช้พลังงาน หรือสภาวะที่ทำให้เกิดการสลายของเซลล์เนื้อเยื่อที่เรียกว่า Catabolic state วิธีนี้ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าได้ผลจริงแต่ยังไม่เคยมีการรับรองถึงขีดจำกัดของช่วงเวลาการฝึกแต่ก็แนะนำว่าไม่มีประโยชน์อะไรเท่าที่ควรหากมีการออกกำลังกาย ติดต่อกันเพื่อสร้างกล้ามเนื้อเกิน 1 ชั่วโมงซึ่งไม่ว่าผู้ที่ฝึกอย่างหนักหรือแบบปานกลางก็สามารถฝึกได้ถึง 25 เซ็ตในช่วงเวลา 1 ชั่วโมงนี้
การพักผ่อน
ในช่วงเวลาการหลับนอนร่างกายของเราจะหลั่งโกรทฮอร์โมนออกมาได้ถึง 75% ของปริมาณต่อวันและโดยส่วนใหญ่จะหลั่งออกมาในช่วง REM ของการหลับนอน ดังนั้นเราจึงควรเน้นสุขอนามัย ในการหลับให้ดีเป็นพิเศษการงีบหลับเพียงชั่วคู่จะไม่ทำให้เราอยู่ในสภาวะที่หลับลึกเพียงพอที่จะช่วยการผลิตโกรทฮอร์โมน โกรทฮอร์โมนในช่วงนี้จะไม่ให้ผลสำคัญในเรื่องของการสร้างกล้ามเนื้อเท่าวิธีอื่นๆเพราะเป็นการสร้างที่ตอบรับกับการนอนหลับและการสร้างพลังงานเมื่อตื่นขึ้นมา ซึ่งไม่ใช่การตอบรับกับการต้องการสร้างพลังงานเพิ่มเติมให้กับร่างกาย ตามเป้าหมายของผู้ที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อ
แต่อย่างไรก็ตาม Growth Hormone จำนวนมากที่หลั่งในเวลานี้จะช่วยให้การทำงานของโกรทฮอร์โมนที่หลังด้วยวิธีอื่นๆมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นการนอน 8-10 ชั่วโมงต่อวันเป็นสิ่งจำเป็นหากคุณต้องการเพิ่มกล้ามเนื้อหรือรูปร่างของคุณให้ดูดี และการนอนหลับที่สม่ำเสมอยังช่วยให้ วงจรการนอนหลับในระยะ REM มีประสิทธิภาพและสร้างโกรทฮอร์โมนได้ดียิ่งขึ้นเช่นหากคุณมักจะนอนตื่นสายในช่วงวันหยุดแนะนำว่าการเปลี่ยนมาตื่นในเวลาปกติเหมือนทุกๆวันจะช่วยให้วงจรในร่างกายทำงานได้ดีขึ้นอีกด้วย มิฉะนั้น การนอนหลับที่ไม่สม่ำเสมอจะทำให้วงจรการนอนหลับและการหลั่งโกรทฮอร์โมนได้ประสิทธิภาพลง
โภชนาการสารอาหาร
ในส่วนนี้เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในการสร้างโกรทฮอร์โมนให้กับร่างกายและเป็นส่วนสำคัญสำหรับนักเพาะกายที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อ และให้มีการหลั่งฮอร์โมนอย่างเป็นธรรมชาติที่สุดแต่อย่างไรก็ตามอย่าลืมว่าการพักผ่อนนอนหลับและการออกกำลังกายตามข้างต้น ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ควรทำให้ เพียงพอเพื่อเสริมกันอีกด้วย สารอาหารที่สำคัญที่สุดตัวหนึ่งในการหลั่งโกรทฮอร์โมนคือกรดอะมิโน แต่เพื่อให้กรดอะมิโนนี้ทำงานได้ดีที่สุดคุณต้องแน่ใจว่าในอาหารของคุณประกอบด้วยไขมันสะอาด 15-20% กรดอะมิโนที่สำคัญสำหรับการหลั่งโกรทฮอร์โมนเรียงตามลำดับความสำคัญจากมากสุดไปน้อยสุดได้แก่
- แอลอาร์จีนีน5-8กรัม
- แอลออร์นิทีน4-7กรัม
- แอลกลูตามีน5กรัม
- ไกซีน3-10กรัม
- ไลซีนในปริมาณน้อย
- OKG3กรัม
- Bcaa 3-6กรัม
นอกจากนี้สารอาหารอื่นๆที่ช่วยการหลั่งโกรทฮอร์โมนได้แก่วิตามินซี วิตามินบี 3 และสารต้านอนุมูลอิสระส่วนใหญ่แนะนำทานสารอาหารเหล่านี้ในช่วงเวลา 45 นาทีก่อนการออกกำลังกาย เพื่อให้ ได้คุณประโยชน์ที่มากที่สุดหรือแนะนำทานก่อนนอนหรือหลังตื่นนอนในวันที่คุณไม่ได้ออกกำลังกายและควรทานเวลาท้องว่าง
จากการที่ได้เรียนรู้ในส่วนของโกรทฮอร์โมนที่เป็นข้อมูลเบื้องต้นข้างบนแล้ว เราได้เห็นกันไปแล้วว่ามันมีผลต่อการเจริญเติบโตโดยตรงทั้งมวลกระดูกและมวลกล้ามเนื้อที่จะถูกสร้างขึ้นจาก HGH ล้วนๆ
ในเมื่อรู้แบบนี้แล้วการแพทย์สมัยใหม่จะมีเหรอที่จะไม่คิดทางลัดในการเพิ่มสมรรถภาพของโกรทฮอร์โมน และจะมีเหรอ ที่มีคำว่าสร้างกล้ามมาเกี่ยวข้องแล้วจะไม่ถูกดึงมาใช้ในศาสตร์การกีฬาเพาะกายในรูปแบบของยาฉีด
การฉีด หรือ กิน HGH
ในศาสตร์แห่งการเพาะกาย ถูกนำสารกระตุ้นตัวนี้เข้ามาร่วมด้วย เป็นที่แพร่หลาย แต่ทว่าราคาแพงกว่าสเตียรอยด์ 3-4 เท่า ทำให้คนบางกลุ่มมองข้ามการใช้โกรทฮอร์โมนไป แต่มันมีอะไรดี ถึงได้แพงมากกว่าสเตียรอยด์ เสียงตอบรับแทบจะ 100% ว่าร่างกายเกิดความแตกต่างภายใน 2 เดือนที่ใช้ ตั้งแต่ผิวที่ใสขึ้น กระดูกข้อมือที่หนาขึ้นสังเกตได้ชัด โดยเอฟเฟคที่ชัดๆจะต้องใช้โกรทฮอร์โมนวันละ 2-4 IU เป็นอย่างต่ำ ซึ่งในกรณีที่ร่างกายเกิดความเคยชินแล้วอาจจะใช้มากกว่าเดิมถึง 2-3 เท่า (แต่ในกรณีที่ใช้เกิน 10IU ขึ้นไปควรมีอินซูลินใช้ควบคู่ไปด้วยนะ)
วิธีการใช้โกรทฮอร์โมนที่จะได้ผลมากที่สุด จากการวิจัยพบว่าโกรทฮอร์โมนจะทำงานทั้งในด้านการสร้างกล้ามเนื้อและการทำลายไขมันได้ดีที่สุดคือ ต้องฉีดทุกวันในช่วงภาวะน้ำตาลต่ำ ซึ่งช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะฉีด Human Growth Hormone (HGH) เข้าสู่ร่างกายคือตอนท้องว่าง หรืออีกวิธี คือตอนก่อนนอน ย้ำว่าก่อนนอนไม่ใช่ว่าใช้แล้วก้มตัวลงไปกดมือถือ เพราะเมื่อคุณหลับโกรทฮอร์โมนจะทำงาน และ การฉีดโกรทฮอร์โมนไปกระตุ้นก่อนที่ฮอร์โมนธรรมชาติจะทำงานเต็มที่ ทำให้ผลที่ได้ไปต่างจากการฉีดตอนท้องว่างเลย โกรทฮอร์โมนสามารถใช้ได้ดีทั้งช่วง Bulking และ cutting เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่มากขึ้นควรใช้ควบคู่กับสเตียรอยด์หากจัดไซเคิลได้ถูกวิธี
ตัวอย่าง Bulking :
- Hgh 2-6 iu หรือ MK677 = 20-50 mg/วัน + Test E,Test C, Sustanon 300-600 mg/week (8-10 week)
- Hgh 2-6 iu หรือ MK677 = 20-50 mg/วัน + Dbol หรือ Tbol 30-50 mg/วัน (6-8 week)
ตัวอย่าง Cutting:
Reviews
There are no reviews yet.