HGH Growth Hormone
HGH (Human Growth Hormone) หรือฮอร์โมนการเจริญเติบโตของมนุษย์ มีหลายรูปแบบและมีการใช้ในหลายวัตถุประสงค์ ทั้งในทางการแพทย์และในวงการเพาะกายหรือการออกกำลังกาย ซึ่งแต่ละรูปแบบของ HGH จะมีลักษณะและการใช้งานที่แตกต่างกันเล็กน้อย
รูปแบบของ HGH แบ่งออกเป็นประเภทหลักๆ ดังนี้:
-
HGH ธรรมชาติ (Endogenous HGH)
ฮอร์โมนการเจริญเติบโตที่ร่างกายผลิตขึ้นเองตามธรรมชาติ ผลิตจากต่อมใต้สมอง (Pituitary Gland) และมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นการเจริญเติบโต การฟื้นฟูกล้ามเนื้อ การเผาผลาญไขมัน และการฟื้นฟูเซลล์ในร่างกาย การผลิต HGH จะมีปริมาณสูงสุดในช่วงวัยเด็กและวัยรุ่น หลังจากนั้นปริมาณการผลิตจะค่อย ๆ ลดลงเมื่ออายุมากขึ้น ส่งผลให้การเจริญเติบโตลดลงและการฟื้นฟูกล้ามเนื้อช้าลง
-
HGH สังเคราะห์ (Synthetic HGH)
HGH สังเคราะห์ถูกสร้างขึ้นในห้องทดลองเพื่อใช้เป็นผลิตภัณฑ์เสริมสำหรับการรักษาหรือเพิ่มสมรรถภาพทางร่างกาย โดยมีหลายรูปแบบที่ใช้ในทางการแพทย์และการเสริมสมรรถภาพ:
2.1 Somatropin
Somatropin เป็น HGH สังเคราะห์ที่เหมือนกับฮอร์โมนการเจริญเติบโตที่ร่างกายผลิตเองตามธรรมชาติ 100% มักถูกใช้ในการรักษาภาวะขาด HGH ในเด็กและผู้ใหญ่ เช่น ผู้ที่มีภาวะเตี้ยจากการขาดฮอร์โมนการเจริญเติบโต นอกจากนี้ Somatropin ยังถูกใช้ในวงการเพาะกายเพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อ เพิ่มการเผาผลาญไขมัน และช่วยในการฟื้นฟูหลังออกกำลังกาย
2.2 HGH Fragment 176-191
เป็นเพียงส่วนหนึ่งของ HGH สังเคราะห์ที่ตัดมาจากลำดับที่ 176 ถึง 191 ของโมเลกุล HGH มันถูกใช้เพื่อการเผาผลาญไขมันโดยเฉพาะ เนื่องจากมีความสามารถในการส่งเสริมการลดไขมันมากกว่าฮอร์โมน HGH แบบเต็มตัว แต่ไม่มีผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อเท่ากับ HGH เต็มรูปแบบ
-
Secretagogues (HGH Boosters)
Secretagogues เป็นสารเสริมที่ช่วยกระตุ้นการผลิต HGH ในร่างกายเอง เช่น อาหารเสริมหรือเปปไทด์บางชนิด เช่น GHRH (Growth Hormone-Releasing Hormone) หรือ GHRP (Growth Hormone-Releasing Peptides) สารเหล่านี้ไม่ใช่ HGH โดยตรง แต่เป็นตัวกระตุ้นให้ร่างกายผลิต HGH ออกมาเพิ่มขึ้น
3.1 GHRP-6 และ GHRP-2
เป็นตัวกระตุ้นการปล่อย HGH ที่ใช้ในวงการเสริมสมรรถภาพทางร่างกาย โดย GHRP-6 จะมีคุณสมบัติกระตุ้นการเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อและการฟื้นฟู ในขณะที่ GHRP-2 จะเน้นที่การกระตุ้น HGH โดยเฉพาะ แต่ก็อาจทำให้เกิดความรู้สึกหิวมากขึ้น
3.2 Ipamorelin
Ipamorelin เป็นอีกหนึ่งในกลุ่มเปปไทด์ที่ช่วยกระตุ้นการปล่อย HGH โดยมีคุณสมบัติที่มีผลข้างเคียงน้อยและไม่เพิ่มความรู้สึกหิวเหมือน GHRP-6
-
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารHGH
มีผลิตภัณฑ์เสริมที่ถูกอ้างว่าสามารถกระตุ้นการผลิต HGH ได้ เช่น แอล-อาร์จินีน (L-Arginine), L-Ornithine และอาหารเสริมอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์เหล่านี้อาจไม่ได้เทียบเท่ากับ HGH สังเคราะห์โดยตรง
การใช้งาน HGH:
ทางการแพทย์: ใช้ในการรักษาภาวะขาดฮอร์โมนในเด็กที่มีการเจริญเติบโตไม่ปกติ ผู้ใหญ่ที่มีภาวะขาด HGH และโรคอื่น ๆ เช่น Turner Syndrome หรือโรคที่เกี่ยวกับการเจริญเติบโตผิดปกติ
ในวงการเพาะกาย: นักกีฬาและนักเพาะกายมักใช้ HGH สังเคราะห์เพื่อเพิ่มการเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อ ลดไขมันในร่างกาย และเพิ่มสมรรถภาพในการฟื้นฟูร่างกายหลังออกกำลังกาย
ความเสี่ยงและผลข้างเคียงของ HGH:
การใช้HGH โดยไม่มีการควบคุมจากแพทย์อาจนำไปสู่ผลข้างเคียงที่รุนแรงได้
เช่น:
- การเจริญเติบโตผิดปกติของอวัยวะและเนื้อเยื่อ
- ความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวาน
- การกักเก็บน้ำในร่างกาย
- ปัญหาข้อต่อและเส้นประสาท
- ความดันโลหิตสูง
ดังนั้น การใช้ HGH ควรอยู่ในความดูแลของแพทย์
คุณประโยชน์ Growth Hormone
โกรทฮอร์โมนถูกค้นพบเมื่อประมาณปี 1920 ประโยชน์ของโกรทฮอร์โมนมีอย่างมากมายแม้กระทั่งในปัจจุบันนี้ก็ยังมีการค้นพบคุณประโยชน์ใหม่ๆเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ต่อมใต้สมองพิทูอิตารี่ ทำหน้าที่หลังโกรทฮอร์โมนและมีผลต่อร่างกายเราอย่างมาก ได้แก่ โกรทฮอร์โมนช่วยเสริมสร้างสังเคราะห์โปรตีนเพื่อสร้างเซลล์เนื้อเยื่อเช่นการซ่อมแซมฟื้นฟูกล้ามเนื้อซึ่งเป็นวิธีสร้างกล้ามเนื้อใหม่
จากการวิจัยชี้ให้เห็นว่าโกรทฮอร์โมนทำงานเกี่ยวข้องกับระบบเผาผลาญไขมันในร่างกายและการดึงพลังงานไปใช้ในเซลล์ต่างๆของร่างกาย การวิจัยทดลองในผู้ที่มีน้ำหนักเกิน ผู้เชี่ยวชาญในการบำบัดผู้ที่ลดน้ำหนักได้นำโกรทฮอร์โมนไปใช้ในการสร้างมวลกล้ามเนื้อระหว่างไดเอท
- ช่วยปรับรูปแบบการนอนหลับทำให้นอนหลับได้สนิทขึ้นลดจำนวนครั้งการตื่นในกลางดึก และมีช่วง REM ของการนอนหลับที่ดีขึ้น
- โกรทฮอร์โมนช่วย ให้ร่างกายมีกำลังมากขึ้น
- ช่วยสมรรถนะทางเพศให้ดีขึ้นนำไปใช้กับผู้ที่มีอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
- ช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับกระดูก
- ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับหัวใจและไต
อย่างที่กล่าวข้างต้น เราจะเห็นได้ว่าคุณนะประโยชน์ของโกรทฮอร์โมนมีหลายด้านเมื่อเทียบกับ เทสโทสเตอโรน แล้วโกรทฮอร์โมนยังถือไพ่เหนือกว่าในด้านที่ #ไม่ใช่สารกระตุ้น และไม่มีผลข้างเคียงถ้าใช้ในปริมาณที่กำหนด
วิธีเพิ่มโกรทฮอร์โมนในร่างกาย
การเพิ่มโกรทฮอร์โมนในร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบด้วยสมดุล 4 อย่างคือ
- การออกกำลังกาย
- การพักผ่อน
- โภชนาการสารอาหาร
- การเสริมด้วยอาหารเสริม
1. การออกกำลังกาย
วิธีการแรกที่จะช่วยให้ร่างกายหลังโกรทฮอร์โมนได้อย่างเป็นธรรมชาติคือการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะการออกกำลังกายอย่างหนัก อย่างที่ผู้ที่นิยมสร้างกล้ามเนื้อถนัดกัน กิจกรรมที่ต้องใช้พลังงานเยอะๆ การได้ใช้กำลังให้ร่างกายได้ล้าเป็นระยะเวลานานๆสิ่งเหล่านี้เป็นกุญแจหลักของการเสริมการหลั่งโกรทฮอร์โมนให้กับร่างกายของเราเพราะว่ากิจกรรมเหล่านี้ทำให้ร่างกายต้องการการสังเคราะห์โปรตีนในกรณีที่เรามีพลังงานไม่เพียงพอจึงเกิดการเผาผลาญและสลายไขมันเพื่อที่จะเติมเต็มการลดลงของไกลโคเจนในร่างกาย
นี่เป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพที่สุดวิธีหนึ่งในการหลังโกรทฮอร์โมนให้กับร่างกายโดยมีเป้าหมายหลักเพื่อที่จะสร้างกล้ามเนื้อ จากการศึกษาทางสรีรวิทยาได้กล่าวว่าเราสามารถควบคุมการหลั่งโกรทฮอร์โมนโดยเชื่อมโยงกับวิธีการออกกำลังกายนี้ได้
โดยข้อแนะนำ ของเราคือไม่ควรออกกำลังกายเกิน 45 นาที เพราะนั่นคือเวลาที่ โกรทฮอร์โมนหยุดการหลั่งและฮอร์โมนคอร์ติซอลหรือฮอร์โมนที่เกี่ยวเนื่องกับสภาวะความเครียดของร่างกายเริ่มหลั่งแทน ถ้าคุณออกกำลังกาย 40 นาทีต่อเนื่องกันเป็นเวลา 1 เดือน และเพิ่มขึ้น อีก 2 นาทีในทุกๆเดือนต่อมา หลังจากผ่านไป 10 เดือนคุณก็จะสามารถออกกำลังกายเป็นระยะเวลา 1 ชั่วโมง ได้โดยไม่ ทำให้เกิดสภาวะไม่ใช้พลังงาน หรือสภาวะที่ทำให้เกิดการสลายของเซลล์เนื้อเยื่อที่เรียกว่า Catabolic state วิธีนี้ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าได้ผลจริงแต่ยังไม่เคยมีการรับรองถึงขีดจำกัดของช่วงเวลาการฝึกแต่ก็แนะนำว่าไม่มีประโยชน์อะไรเท่าที่ควรหากมีการออกกำลังกาย ติดต่อกันเพื่อสร้างกล้ามเนื้อเกิน 1 ชั่วโมงซึ่งไม่ว่าผู้ที่ฝึกอย่างหนักหรือแบบปานกลางก็สามารถฝึกได้ถึง 25 เซ็ตในช่วงเวลา 1 ชั่วโมงนี้
2. การพักผ่อน
ในช่วงเวลาการหลับนอนร่างกายของเราจะหลั่งโกรทฮอร์โมนออกมาได้ถึง 75% ของปริมาณต่อวันและโดยส่วนใหญ่จะหลั่งออกมาในช่วง REM ของการหลับนอน ดังนั้นเราจึงควรเน้นสุขอนามัย ในการหลับให้ดีเป็นพิเศษการงีบหลับเพียงชั่วคู่จะไม่ทำให้เราอยู่ในสภาวะที่หลับลึกเพียงพอที่จะช่วยการผลิตโกรทฮอร์โมน โกรทฮอร์โมนในช่วงนี้จะไม่ให้ผลสำคัญในเรื่องของการสร้างกล้ามเนื้อเท่าวิธีอื่นๆเพราะเป็นการสร้างที่ตอบรับกับการนอนหลับและการสร้างพลังงานเมื่อตื่นขึ้นมา ซึ่งไม่ใช่การตอบรับกับการต้องการสร้างพลังงานเพิ่มเติมให้กับร่างกาย ตามเป้าหมายของผู้ที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อ
แต่อย่างไรก็ตาม Growth Hormone จำนวนมากที่หลั่งในเวลานี้จะช่วยให้การทำงานของโกรทฮอร์โมนที่หลังด้วยวิธีอื่นๆมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นการนอน 8-10 ชั่วโมงต่อวันเป็นสิ่งจำเป็นหากคุณต้องการเพิ่มกล้ามเนื้อหรือรูปร่างของคุณให้ดูดี และการนอนหลับที่สม่ำเสมอยังช่วยให้ วงจรการนอนหลับในระยะ REM มีประสิทธิภาพและสร้างโกรทฮอร์โมนได้ดียิ่งขึ้นเช่นหากคุณมักจะนอนตื่นสายในช่วงวันหยุดแนะนำว่าการเปลี่ยนมาตื่นในเวลาปกติเหมือนทุกๆวันจะช่วยให้วงจรในร่างกายทำงานได้ดีขึ้นอีกด้วย มิฉะนั้น การนอนหลับที่ไม่สม่ำเสมอจะทำให้วงจรการนอนหลับและการหลั่งโกรทฮอร์โมนได้ประสิทธิภาพลง
3. โภชนาการสารอาหาร
ในส่วนนี้เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในการสร้างโกรทฮอร์โมนให้กับร่างกายและเป็นส่วนสำคัญสำหรับนักเพาะกายที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อ และให้มีการหลั่งฮอร์โมนอย่างเป็นธรรมชาติที่สุดแต่อย่างไรก็ตามอย่าลืมว่าการพักผ่อนนอนหลับและการออกกำลังกายตามข้างต้น ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ควรทำให้ เพียงพอเพื่อเสริมกันอีกด้วย สารอาหารที่สำคัญที่สุดตัวหนึ่งในการหลั่งโกรทฮอร์โมนคือกรดอะมิโน แต่เพื่อให้กรดอะมิโนนี้ทำงานได้ดีที่สุดคุณต้องแน่ใจว่าในอาหารของคุณประกอบด้วยไขมันสะอาด 15-20% กรดอะมิโนที่สำคัญสำหรับการหลั่งโกรทฮอร์โมนเรียงตามลำดับความสำคัญจากมากสุดไปน้อยสุดได้แก่
- แอลอาร์จีนีน5-8กรัม
- แอลออร์นิทีน4-7กรัม
- แอลกลูตามีน5กรัม
- ไกซีน3-10กรัม
- ไลซีนในปริมาณน้อย
- OKG3กรัม
- Bcaa 3-6กรัม
นอกจากนี้สารอาหารอื่นๆที่ช่วยการหลั่งโกรทฮอร์โมนได้แก่วิตามินซี วิตามินบี 3 และสารต้านอนุมูลอิสระส่วนใหญ่แนะนำทานสารอาหารเหล่านี้ในช่วงเวลา 45 นาทีก่อนการออกกำลังกาย เพื่อให้ ได้คุณประโยชน์ที่มากที่สุดหรือแนะนำทานก่อนนอนหรือหลังตื่นนอนในวันที่คุณไม่ได้ออกกำลังกายและควรทานเวลาท้องว่าง
จากการที่ได้เรียนรู้ในส่วนของโกรทฮอร์โมนที่เป็นข้อมูลเบื้องต้นข้างบนแล้ว เราได้เห็นกันไปแล้วว่ามันมีผลต่อการเจริญเติบโตโดยตรงทั้งมวลกระดูกและมวลกล้ามเนื้อที่จะถูกสร้างขึ้นจาก HGH ล้วนๆ
ในเมื่อรู้แบบนี้แล้วการแพทย์สมัยใหม่จะมีเหรอที่จะไม่คิดทางลัดในการเพิ่มสมรรถภาพของโกรทฮอร์โมน และจะมีเหรอ ที่มีคำว่าสร้างกล้ามมาเกี่ยวข้องแล้วจะไม่ถูกดึงมาใช้ในศาสตร์การกีฬาเพาะกายในรูปแบบของยาฉีด
4. การฉีดหรือกิน GH
ในศาสตร์แห่งการเพาะกาย ถูกนำสารกระตุ้นตัวนี้เข้ามาร่วมด้วย เป็นที่แพร่หลาย แต่ทว่าราคาแพงกว่าสเตียรอยด์ 3-4 เท่า ทำให้คนบางกลุ่มมองข้ามการใช้โกรทฮอร์โมนไป แต่มันมีอะไรดี ถึงได้แพงมากกว่าสเตียรอยด์ เสียงตอบรับแทบจะ 100% ว่าร่างกายเกิดความแตกต่างภายใน 2 เดือนที่ใช้ ตั้งแต่ผิวที่ใสขึ้น กระดูกข้อมือที่หนาขึ้นสังเกตได้ชัด โดยเอฟเฟคที่ชัดๆจะต้องใช้โกรทฮอร์โมนวันละ 2-4 IU เป็นอย่างต่ำ ซึ่งในกรณีที่ร่างกายเกิดความเคยชินแล้วอาจจะใช้มากกว่าเดิมถึง 2-3 เท่า (แต่ในกรณีที่ใช้เกิน 10IU ขึ้นไปควรมีอินซูลินใช้ควบคู่ไปด้วยนะ)
วิธีการใช้โกรทฮอร์โมนที่จะได้ผลมากที่สุด จากการวิจัยพบว่าโกรทฮอร์โมนจะทำงานทั้งในด้านการสร้างกล้ามเนื้อและการทำลายไขมันได้ดีที่สุดคือ ต้องฉีดทุกวันในช่วงภาวะน้ำตาลต่ำ ซึ่งช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะฉีด Human Growth Hormone (HGH) เข้าสู่ร่างกายคือตอนท้องว่าง หรืออีกวิธี คือตอนก่อนนอน ย้ำว่าก่อนนอนไม่ใช่ว่าใช้แล้วก้มตัวลงไปกดมือถือ เพราะเมื่อคุณหลับโกรทฮอร์โมนจะทำงาน และ การฉีดโกรทฮอร์โมนไปกระตุ้นก่อนที่ฮอร์โมนธรรมชาติจะทำงานเต็มที่ ทำให้ผลที่ได้ไปต่างจากการฉีดตอนท้องว่างเลย โกรทฮอร์โมนสามารถใช้ได้ดีทั้งช่วง Bulking และ cutting เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่มากขึ้นควรใช้ควบคู่กับสเตียรอยด์หากจัดไซเคิลได้ถูกวิธี
ตัวอย่าง Bulking :
- Hgh 2-6 iu หรือ MK677 = 20-50 mg/วัน + Test E,Test C, Sustanon 300-600 mg/week (8-10 week)
- Hgh 2-6 iu หรือ MK677 = 20-50 mg/วัน + Dbol หรือ Tbol 30-50 mg/วัน (6-8 week)
ตัวอย่าง Cutting:
- Hgh 4-6 iu หรือ MK677 = 20-50 mg/วัน + Winstrol หรือ Anavar 50 mg/วัน
ปริมาณที่แนะนำต่อวันสำหรับ hGH :
2iu ต่อวัน = ต่อต้านวัย (ผิวพรรณ ผม เล็บ อารมณ์ ฯลฯ ดีขึ้น)
4iu – 6iu ต่อวัน = ฟิตเนส
6iu+ ต่อวัน = นักเพาะกาย
*รับประทานสัปดาห์ละ 6 วัน เป็นเวลา 3 ถึง 6 เดือน
การคำนวณหน่วยต่อมิลลิลิตร:
1.5มล. = 30หน่วย
0.75มล. = 15หน่วย
0.375มล. = 7.5หน่วย
0.2มล. = 4หน่วย
0.188มล. = 3.75หน่วย
0.1มล. = 2หน่วย
*ตลับละ 1.5 มล. มี 5 ตลับ รวม 150 ตลับ





Reviews
There are no reviews yet.