Testosterone (Test C E Prop)
Testosterone มีหลายประเภท ซึ่งแตกต่างกันตามเอสเทอร์ที่จับกับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน ทำให้มีระยะเวลาการออกฤทธิ์ต่างกัน นี่คือประเภทหลักๆ ของ Testosterone:
1. Testosterone Propionate
คุณสมบัติ: ออกฤทธิ์เร็ว เนื่องจากมีเอสเทอร์สั้น
การใช้: ต้องฉีดบ่อย (ทุกวันหรือวันเว้นวัน)
ระยะเวลาครึ่งชีวิต: ประมาณ 2-3 วัน
เหมาะสำหรับ: การใช้งานในช่วงลดไขมันหรือต้องการเห็นผลเร็ว
2. Testosterone Enanthate
คุณสมบัติ: มีเอสเทอร์ยาว ทำให้มีการปล่อยสารอย่างช้าๆ
การใช้: ฉีดทุก 1-2 สัปดาห์
ระยะเวลาครึ่งชีวิต: ประมาณ 5-7 วัน
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการรักษาระดับฮอร์โมนในร่างกายอย่างต่อเนื่อง
3. Testosterone Cypionate
คุณสมบัติ: คล้ายกับ Enanthate แต่มีเอสเทอร์ยาวกว่าเล็กน้อย
การใช้: ฉีดทุก 1-2 สัปดาห์
ระยะเวลาครึ่งชีวิต: ประมาณ 7-8 วัน
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการความเสถียรในการรักษาระดับฮอร์โมน
4. Testosterone Suspension
คุณสมบัติ: ไม่มีเอสเทอร์ จึงเป็น Testosterone บริสุทธิ์
การใช้: ต้องฉีดบ่อยมาก (ทุกวันหรือหลายครั้งต่อวัน)
ระยะเวลาครึ่งชีวิต: ไม่กี่ชั่วโมง
เหมาะสำหรับ: การใช้งานระยะสั้นหรือการแข่งขัน
5. Testosterone Undecanoate
คุณสมบัติ: มีเอสเทอร์ยาวมาก ทำให้การปล่อยสารช้าสุด
การใช้: ฉีดทุก 4-6 สัปดาห์
ระยะเวลาครึ่งชีวิต: ประมาณ 16-20 วัน
เหมาะสำหรับ: การรักษาระยะยาวและการบำบัดฮอร์โมน (TRT)
6. Sustanon 250
คุณสมบัติ: เป็นการผสมของ Testosterone หลายชนิด (Propionate, Phenylpropionate, Isocaproate, Decanoate)
การใช้: ฉีดทุก 2-3 สัปดาห์
ระยะเวลาครึ่งชีวิต: ขึ้นอยู่กับส่วนประกอบแต่ละชนิด
เหมาะสำหรับ: การรักษาระดับฮอร์โมนอย่างต่อเนื่องในระยะยาว
สรุป:
Testosterone มีหลายประเภทให้เลือกใช้ ขึ้นอยู่กับระยะเวลาการออกฤทธิ์และความถี่ในการฉีด การเลือกประเภทขึ้นอยู่กับเป้าหมายของผู้ใช้และความสะดวกในการใช้งาน
———————————————–
Testosterone
มีงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่า ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (Testosterone) อาจช่วยบรรเทาอาการซึมเศร้าในผู้ชายที่มีระดับฮอร์โมนนี้ต่ำกว่าปกติ ซึ่งระดับเทสโทสเตอโรนที่ต่ำอาจมีความสัมพันธ์กับอาการทางอารมณ์ เช่น ความเหนื่อยล้า ความรู้สึกเศร้า และอารมณ์หดหู่
วิธีการที่ Testosterone อาจช่วย:
1. ส่งเสริมการทำงานของสมอง: ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนมีบทบาทในการควบคุมสารสื่อประสาท เช่น เซโรโทนิน (Serotonin) และโดปามีน (Dopamine) ที่มีผลต่ออารมณ์และความรู้สึกเป็นสุข
2. เพิ่มพลังงานและความแข็งแรง: ระดับเทสโทสเตอโรนที่เพียงพอสามารถช่วยให้ร่างกายมีพลังงานมากขึ้น ลดอาการเหนื่อยล้า ซึ่งอาจช่วยลดอาการซึมเศร้าได้
3. ส่งผลต่อสมรรถภาพทางเพศและความมั่นใจ: การฟื้นตัวของสมรรถภาพทางเพศจากระดับเทสโทสเตอโรนที่เหมาะสมอาจช่วยเพิ่มความมั่นใจและส่งผลเชิงบวกต่ออารมณ์
งานวิจัย
งานวิจัยบางชิ้นแนะนำว่าการให้ Testosterone Replacement Therapy (TRT) กับผู้ชายที่มีระดับฮอร์โมนต่ำอาจช่วยลดอาการซึมเศร้าได้ แต่การใช้เทสโทสเตอโรนในการรักษาโรคซึมเศร้าโดยตรงในผู้ชายที่มีระดับฮอร์โมนปกติยังคงเป็นเรื่องที่ต้องการการวิจัยเพิ่มเติม
———————————————–
เนื่องจากว่ามีคนถามเยอะ ว่าจริงๆ แล้วเนี่ยมันต้องใช้เทสเท่าไหร่ ทําไมบางคนใช้ถึง 750 หรือ 1,000 บางคนสายบ้าใช้ 1500mg ต่อสัปดาห์ แล้วบางคนยังมีสูตรพิเรนท์ของนักเพาะกายไทยที่สืบทอดกันมาอีก เท่าที่ผมได้ยินมาก็ Test E ใช้แล้วได้ใหญ่ Test Prop ใช้แล้วลีน Sustanon ใช้ดีมาก ใหญ่ไว มืออาชีพชอบใช้ Test E + Test Prop ใช้ด้วยกันจะทั้งใหญ่ทั้งลีน sustanon 250mg + Test E 250mg + Test prop 100mg รวมกัน จะได้กล้ามเยอะมาก ผมก็แบบ เฮ้ย นี่มันไม่ใช่ละ หลักการมันไม่ใช่เลยนะ คนละเรื่อง
ก่อนอื่น เราต้องเข้าใจก่อนว่า testosterone ก็คือฮอร์โมนเพศชาย ถามว่ามันเพิ่มกล้ามมั้ย ก็ใช่ครับ มันเพิ่มแต่ทุกวันนี้มันมียาดีๆ มากมายที่เพิ่มกล้ามได้ดีกว่า โดยที่สามารถบริหารผลข้างค้างเคียงได้ดีและเหมาะกับตัวเอง เช่น Deca, anavar หรือแม้กระทั่ง Tren
Testosterone ในตัวจะแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
- Bound Testosterone เอาง่ายๆ คือกลุ่มนี้จะเป็น 98% ของเทสในตัว เป็นเทสที่ไปจับกับ SHBG และ Albumin เอาง่ายๆ คือเราจะไม่นับกลุ่มนี้ เพราะพูดง่ายๆ คือมันไม่ active
- Free Testosterone คือเป็นกลุ่มที่ active และสามารถจะไปทํากิจกรรมต่างๆ ในร่างกาย เช่น สร้างกล้าม เป็นต้น ซึ่งระดับของ Free Testosterone จะเป็นตัวชี้วัดที่แท้จริง
พูดง่ายๆ คือ การฉีด Test E 500mg กับ 1000mg อาจจะไม่ได้ผลต่างกันมาก เพราะปริมาณ Free Testosterone อาจจะต่างกันแค่นิดเดียว ที่นี้ ยา AAS ต่างๆ มันล้วนถูกดัดแปลงมาจาก testosterone อีกที ซึ่งคุณสมบัติ binding affinity นี่ก็ถูกดัดแปลงไปด้วย คือพูดง่ายๆ ก็พยายามดัดแปลงไม่ให้ไปจับกับ SHBG หรือ Albumin เพราะยิ่งจับได้น้อยเท่าไหร่ก็ยิ่ง Free มากขึ้น ปริมาณยาที่ active จริงๆ ก็จะมากขึ้น ทีนี้ ปริมาณของ SHBG เนี่ย (ยิ่งเยอะ Free test ยิ่งน้อย) มันขึ้นอยู่กับหลักๆ คือ
- Estrogen และ thyroid hormone ยิ่งเยอะ SHBG ยิ่งเยอะ Free test จะน้อย นี่เลยเป็นเหตุผลที่ใช้ T3 แล้วกล้ามหาย
- ระดับของ androgen ถ้าสูง จะสามารถลดระดับของ SHBG ได้ ซึ่งมันเคยมีการทดลองว่ากิน stano เม็ด 20mg ต่อวัน 3 วัน ลด SHBG ได้ 50% คือ Free test นี่มากขึ้นเยอะเลย แต่มันยังมีวิธีอื่นอีกเพื่อที่จะทําให้ test มัน free มากขึ้น เช่น ทาน proviron เพราะมันจับ SHBG ได้ดีมาก ให้มันไปจับซะ ตัวอื่นจะวิ่งได้มากขึ้น ได้ผลดีขึ้น สรุปง่ายๆ ได้ว่า การจัดการฮอร์โมนให้อยู่ใน free state เป็นหนทางที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มหรือลดความเข้มข้นของยา ซึ่งผมว่ามันน่าจะสนใจกว่าการอัดโดสยาขึ้นเรื่อยๆ นะ ประหยัด + ร่างกายไม่พัง ถึงตอนนี้คงพอจะเข้าเรื่อง testosterone แล้ว ต่อมาคือเรื่องของ Test E, Test Prop, Sustanon, Test C ทั้งหลาย ว่ามันเป็นแบบตอนเกริ่นจริงไหม คําตอบคือมันไม่จริง ไม่เกี่ยวเลย เพราะมันเป็นฮอร์โมนเดียวกัน แต่ต่างที่มีการกําหนดระยะเวลาออกฤทธิ์ไม่เหมือนกัน จึงเป็นไปไม่ได้ที่ตัวนึงจะลืนกว่าอีกตัวนึง หรืออีกตัวนึงจะได้เนื้อเยอะกว่าอีกตัวนึง จะใช้อันไหนมันขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลและความสะดวกใน การ stack ยา เช่น
– Sustanon จะให้เอฟเฟ็กที่ไว เพราะมันรวมการออกฤทธิ์หลายๆ แบบ คือมาทันใจ แต่แลกมากับระดับฮอร์โมนที่ขึ้นสูงลงสูง ทําให้บางคนเขอผลข้างเคียง
-Test E/C จะให้เอฟเฟ็กที่ช้า แต่แลกมากับระดับฮอร์โมนที่คงที่ ส่วนมากไม่ค่อยเจอผลข้างเคียงถ้าโดสไม่เยอะ
-Test Prop จะให้เอฟเฟ็กที่ไวมาก แต่ก็ต้องฉีดบ่อย แล้วก็ขึ้นไวลงไว
จริงๆ แล้วเนี่ย เพื่อความสะดวก Test E/C ก็จะใช้กับยาที่ออกฤทธิ์ไวเหมือนกัน เพื่อความสะดวกในการคํานวณ Cycle Test prop ก็จะใช้กับยาออกฤทธิ์สั้น มันก็แค่นั้นเอง ไม่มีตัวไหนลื่นกว่าหรือดีกว่า มันแล้วแต่ความเหมาะสม ดังนั้น การ stack test e + test prop โดยหวังว่าทั้งใหญ่ทั้งคืน มันเลยเป็นความเชื่อที่ผิด เพราะฮอร์โมนในตัวมันเหมือนเดิม แค่ระดับมันเปลี่ยนไปแค่นั้นเอง ถ้าให้เห็นภาพ ลองโหลดแอพ Steroid converter มาใส่เล่นๆ ดูครับ ขึ้นเป็นกราฟเลย แล้วสรุปว่าต้องใช้ Test เท่าไหร่? โดยส่วนตัวนะครับ ผมชอบไม่เกิน 500 ต่อสัปดาห์ เพราะเชื่อว่าสมัยนี้มันมียาดีๆ เยอะแยะที่สามารถสร้างกล้ามได้ดีกว่า และสามารถจัดการผลข้างเ คียงได้ดีกว่า มันเลยไม่มีเหตุผลให้ใช้เทสเยอะ ใช้แค่ให้จําแข็ง ให้ร่างกายมันปกติก็พอ แต่มันมีบางคนที่ใช้เดกก้าหรือเทรนแล้วจู่หดทั้งๆ ที่ใช้เทส 500 แล้ว ถ้าคนไม่รู้ ก็โอเค ใส่ไปเลย 750 หรือ 1000 ใส่จนมันแข็ง แต่จริงๆ มันมีอะไรมากกว่านั้น เพราะจู่ไม่ได้แข็งเพราะเทส แต่แข็งเพาะ DHT ซึ่งเทสจะเป็นที่มาของ DHT อีกที จริงๆ ทาน proviron เข้าไปก็หายแล้ว ไม่จําเป็นต้องอัพเทสให้บวมหรือนมขึ้นเลย
———————————————–
Testosterone ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
หนึ่งใน Testosterone ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด Testosterone E C Prop ไม่ว่าจะตัวสั้นหรือตัวยาว ไม่มีตัวไหนดีไปกว่ากัน เนื่องจากล้วนเป็นฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนที่มีประสิทธิภาพเหมือนกัน แค่ความรวดเร็วในการดูดซับและระยะเวลาที่เอสเทอร์แต่ละ ตัวใช้ในการกำจัดออกจากร่างกายจะแตกต่างกันไปเท่านั้นเอง ฮอร์โมนเพศชายประเภทต่างๆ ได้แก่
- Testosterone Suspension
- Testosterone Propionate
- Testosterone Enanthate
- Testosterone Cypionate
Testosterone Suspension
ไม่แนะนำให้ใช้ Testosterone Suspension สำหรับผู้เริ่มต้น เนื่องจากมีลักษณะออกฤทธิ์เร็ว (เป็นฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนบริสุทธิ์แบบน้ำ) ดังนั้นจึงจำเป็นต้องฉีดบ่อยมาก (วันละ 2 ครั้ง) เพื่อรักษาระดับฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนอยู่ในกระแสเลือดให้สูงสุด
ผู้ใช้บางรายของเราพบว่าการฉีด suspension มีความเจ็บปวดเนื่องจากต้องใช้เข็มที่ใหญ่กว่า (เนื่องจากผลึกมีขนาดใหญ่กว่าและไม่ใช่ไมโครไนซ์)
Testosterone Propionate
Testosterone Propionate เป็นอีกหนึ่งเอสเทอร์ที่ออกฤทธิ์เร็วแม้ว่าจะช้ากว่า suspension ก็ตาม เราพบว่าเอสเทอร์นี้ได้รับความนิยมน้อยกว่าเนื่องจากมีต้นทุนสูง นักเพาะกายบางคนคิดว่า Propionate มีราคาถูกเนื่องจากราคาต่ำกว่า อย่างไรก็ตาม ให้ยา Propionate ที่ 100 มก./มล. แทนที่จะเป็น 250 มก./มล. ดังนั้น คุณจะต้องจ่าย2.5 เท่า ของราคานี้จึงจะสามารถโดสเท่าไซเคิ้ลของมาตรฐานได้ ในที่สุด Testosterone propionate จะมีต้นทุนสูงกว่าเอสเทอร์อื่นถึง 50% นอกจากนี้ เนื่องจากการฉีด propionate เป็นที่รู้กันว่าอาจจะเจ็บปวด (ในบางคน) นักเพาะกายจำนวนมากจึงเลือกใช้เอสเทอร์อื่นๆแทน
Testosterone Enanthate และ Cypionate
Enanthate และ Cytopionate เป็นฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนสองรูปแบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ซึ่งประกอบด้วยเอสเทอร์ที่ยาวกว่าซึ่งจะออกฤทธิ์ช้ากว่า ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้จำเป็นต้องฉีดเพียงครั้งเดียวทุกๆ4-5 วัน แต่จะได้รับปริมาณเพิ่มขึ้นเท่าเดิมเมื่อสิ้นสุดรอบเมื่อเทียบกับเอสเทอร์ที่เร็วกว่า
TOP 7 Cycle Testosterone สำหรับผู้เริ่มต้น
week
1 Testosterone 200 mg
2 Testosterone 200 mg
3 Testosterone 300 mg
4 Testosterone 300 mg
5 Testosterone 300 mg
6 Testosterone 350 mg
7 Testosterone 350 mg
การใช้ Testosterone cypionate หรือ enanthate ไซเคิ้ลTestosterone สำหรับผู้เริ่มต้นแม้จะใช้ยาไม่มากนัก แต่ก็ทำให้ขนาดและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นอย่างมาก
***หากคุณเป็นโรค hypogonadism (ภาวะฮอร์โมนเพศชายต่ำ เป็นภาวะที่ร่างกายผลิตฮอร์โมนเพศชายได้ไม่เพียงพอ ) และต้องการฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนเพื่อการรักษาโรค เราขอแนะนำ เนื่องจากประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์และการจัดส่งทั่วโลกที่รวดเร็ว (5–10 วัน)
***ผลข้างเคียงของฮอร์โมนเพศชาย จากการทดสอบของเรา เราถือว่า Testosteroneมีโปรไฟล์ด้านความปลอดภัยที่ดีที่สุดเมื่อเทียบกับสเตียรอยด์ชนิดอื่น เนื่องจากTestosterone เป็นสเตียรอยด์แบบฉีด มันจะเข้าสู่กระแสเลือดทันที จึงไม่ทำให้ตับเกิดความเครียด การศึกษาชิ้นหนึ่งพบว่าการให้Testosterone แบบกิน 400 มก. ต่อวันเป็นเวลา 20 วันไม่มีผลเสียต่อเอนไซม์ตับ การทดสอบการทำงานของตับก็แสดงให้เห็นเช่นกัน ในทางตรงกันข้ามสเตียรอยด์ bulking เป็นพิษต่อตับ ได้แก่
- Dianabol
- Anadrol
- Trenbolone
เราพบว่า testosterone ในปริมาณต่ำถึงปานกลางทำให้ค่าคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี(LDL) เพิ่มขึ้นเล็กน้อย เท่านั้น ส่งผลให้ ความดันโลหิตเพิ่มขึ้นเล็กน้อยด้วยเช่นกัน
***สเตียรอยด์ชนิดอื่นมีผลเสียต่อ BP (ความดันโลหิต) แย่ลงมาก ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจอย่างมาก เทสโทสเตอโรนอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่เกี่ยวข้องกับแอนโดรเจน ผิวมัน สิว และผมบางบนหนังศีรษะเป็นผลข้างเคียงที่เป็นไปได้อื่นๆ ของฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนที่ผู้ใช้ของเราพบในบางคน การเพิ่มขึ้นของขนตามร่างกายหรือบนใบหน้าก็เป็นเรื่องปกติเช่นกัน
***Gynecomastia เป็นไปได้สำหรับผู้ใช้ที่มีความอ่อนไหวเซนซิทีฟทางพันธุกรรม ในการรักษา gynecomastia เรามักจะประสบความสำเร็จกับ SERMs (selective estrogen receptor modulators) เช่น Nolvadex เพื่อป้องกันการขยายตัวของเนื้อเยื่อเต้านม Nolvadex สกัดกั้นฮอร์โมนเอสโตรเจนโดยเฉพาะในต่อมน้ำนม ในขณะเดียวกันก็รักษาระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ไหลเวียนไปทั่วร่างกาย สิ่งนี้ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิด gynecomastia ได้อย่างมาก โดยไม่ลดระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนโดยรวมลงอย่างมาก (จึงทำให้ระดับ HDL คอเลสเตอรอลและเซโรโทนินอยู่ในระดับที่เหมาะสม)
Testosterone จะระงับการผลิตฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนภายนอกหลังไซเคิ้ล ทำให้เกิดความไม่ balance ในระดับฮอร์โมน เราพบว่าระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนตามธรรมชาติ จะใช้เวลาประมาณ 1-4 เดือนในการฟื้นตัว ขึ้นอยู่กับขนาดยา ระยะเวลาของรอบไซเคิ้ล และความถี่ที่บุคคลนั้นใช้สเตียรอยด์ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ของเรามักใช้ PCT เพื่อลดระยะเวลานี้ และยังส่งผลดีต่อจิตใจอีกด้วย (ทำให้พวกเขามีความรู้สึกเป็นอยู่ที่ดีตามปกติ)
ไซเคิ้ล Testosterone and Dianabol Cycle
week
1 Testosterone 200 mg
2 Testosterone 400 mg
3 Testosterone 400 mg Dianabol 10 mg/day
4 Testosterone 400 mg Dianabol 10 mg/day
5 Testosterone 400 mg Dianabol 20 mg/day
6 Testosterone 500 mg Dianabol 20 mg/day
7 Testosterone 500 mg Dianabol 20 mg/day
8 Testosterone 500 mg Dianabol 20 mg/day
9 Testosterone 500 mg Dianabol 20 mg/day
10 Testosterone 200 mg Dianabol 20 mg/day
นี่คือไซเคิ้ลการเพิ่มมวลกล้ามเนื้อทั่วไปที่ รวมสเตียรอยด์เพิ่มมวลกล้ามเนื้อที่ทรงพลังที่สุดสองตัวเข้าด้วยกัน การเติมDianabol เข้าไป จะช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อและความแข็งแรงได้อย่างมาก ดังนั้นเราจึงพบว่าผลข้างเคียงของแอนโดรเจนจะน้อยลงอย่างเห็นได้ชัดใน Dianabol อย่างไรก็ตาม มันมีความได้เปรียบเหนือTestosteroneในการเพิ่มกล้ามเนื้อและความแข็งแรง
Side Effects Testosterone และ Dbol สแตคนี้จะทำให้เกิดผลข้างเคียง
Dianabol, เป็นเตียรอยด์แบบกินจะทำให้ตับเป็นพิษ ดังนั้นจึงไม่ควรรับประทานเป็นเวลานาน ผู้ใช้ของเรามักจะรับประทานอาหารเสริมบำรุงตับ (เช่น tudca ) เพื่อป้องกันไม่ให้เอนไซม์ ALT และ AST เพิ่มขึ้นสูงเกินไป แม้ว่าtestosterone จะค่อนข้างไม่มีผลหัวใจ (แต่กับเธอมีผลแน่นอน) แต่กับDianabol ไม่ใช่ สาเหตุส่วนหนึ่งเป็นเพราะ Dianabol เป็นสเตียรอยด์ชนิดรับประทานที่มีฤทธิ์รุนแรง ซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องการทำให้ระดับคอเลสเตอรอลสูงขึ้น เนื่องจากไปกระตุ้นเอนไซม์ในตับ
testosterone และ Dianabol เป็นทั้งสารประกอบเอสโตรเจนและบวมน้ำ ดังนั้น gynecomastia จึงมีความเสี่ยงสูง เพื่อป้องกันสิ่งนี้ ควรใช้ SERM ที่มีประสิทธิผล (Nolvadex) ตลอดไซเคิ้ลทั้งหมด อย่างไรก็ตาม SERM จะไม่ป้องกันการกักเก็บของเหลวใดๆ
การกักเก็บน้ำเกือบจะแน่นอนกับคู่นี้ ทำให้ผู้ใช้รู้สึกบวมและกล้ามเนื้อดูเรียบเนียน ดังนั้นเราจึงพบว่าใช้ไซเคิ้ลนี้ได้ดีที่สุดในช่วงเพิ่ม หรือนอกฤดูการแข่ง(off season) เซ็ตนี้เหมาะกับมวลมากกว่าความสวยงาม
ระดับฮอร์โมนมีแนวโน้มที่จะลดลงหลังไซเคิ้ล ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีวิธีป้องกัน หลังไซเคิ้ลต้องใช้ HCG และ Clomid เพื่อที่จะฟื้นฟูการผลิตฮอร์โมนเพศชาย (ปกติภายใน 1-2 เดือน) การไม่ PCT อาจส่งผลให้ผู้ใช้ประสบอาการฮอร์โมนเพศชายต่ำเป็นเวลาหลายเดือน
แม้ว่า Dianabol จะไม่เป็นแอนโดรเจนโดนตรง แต่ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ (เนื่องจากมีฮอร์โมนเพศชาย):
1.ต่อมลูกหมากโต
2.สิว
ไซเคิ้ล ฮอร์โมนเพศชายสำหรับผู้เริ่มต้น
week
1 Testosterone 200 mg
2 Testosterone 200 mg
3 Testosterone 300 mg
4 Testosterone 300 mg
5 Testosterone 300 mg
6 Testosterone 350 mg
7 Testosterone 350 mg
การใช้ Testosterone cypionate หรือ enanthate ไซเคิ้ลTestosterone สำหรับผู้เริ่มต้นแม้จะใช้ยาไม่มากนัก แต่ก็ทำให้ขนาดและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นอย่างมาก
***หากคุณเป็นโรค hypogonadism (ภาวะฮอร์โมนเพศชายต่ำ เป็นภาวะที่ร่างกายผลิตฮอร์โมนเพศชายได้ไม่เพียงพอ ) และต้องการฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนเพื่อการรักษาโรค เราขอแนะนำ เนื่องจากประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์และการจัดส่งทั่วโลกที่รวดเร็ว (5–10 วัน)
***ผลข้างเคียงของฮอร์โมนเพศชาย จากการทดสอบของเรา เราถือว่า Testosteroneมีโปรไฟล์ด้านความปลอดภัยที่ดีที่สุดเมื่อเทียบกับสเตียรอยด์ชนิดอื่น เนื่องจากTestosterone เป็นสเตียรอยด์แบบฉีด มันจะเข้าสู่กระแสเลือดทันที จึงไม่ทำให้ตับเกิดความเครียด การศึกษาชิ้นหนึ่งพบว่าการให้Testosterone แบบกิน 400 มก. ต่อวันเป็นเวลา 20 วันไม่มีผลเสียต่อเอนไซม์ตับ การทดสอบการทำงานของตับก็แสดงให้เห็นเช่นกัน ในทางตรงกันข้ามสเตียรอยด์ bulking เป็นพิษต่อตับ ได้แก่
- Dianabo
- Anadrol
- Trenbolone
เราพบว่า testosterone ในปริมาณต่ำถึงปานกลางทำให้ค่าคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี(LDL) เพิ่มขึ้นเล็กน้อย เท่านั้น ส่งผลให้ ความดันโลหิตเพิ่มขึ้นเล็กน้อยด้วยเช่นกัน
***สเตียรอยด์ชนิดอื่นมีผลเสียต่อ BP (ความดันโลหิต) แย่ลงมาก ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจอย่างมาก เทสโทสเตอโรนอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่เกี่ยวข้องกับแอนโดรเจน ผิวมัน สิว และผมบางบนหนังศีรษะเป็นผลข้างเคียงที่เป็นไปได้อื่นๆ ของฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนที่ผู้ใช้ของเราพบในบางคน การเพิ่มขึ้นของขนตามร่างกายหรือบนใบหน้าก็เป็นเรื่องปกติเช่นกัน
***Gynecomastia เป็นไปได้สำหรับผู้ใช้ที่มีความอ่อนไหวเซนซิทีฟทางพันธุกรรม ในการรักษา gynecomastia เรามักจะประสบความสำเร็จกับ SERMs (selective estrogen receptor modulators) เช่น Nolvadex เพื่อป้องกันการขยายตัวของเนื้อเยื่อเต้านม Nolvadex สกัดกั้นฮอร์โมนเอสโตรเจนโดยเฉพาะในต่อมน้ำนม ในขณะเดียวกันก็รักษาระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ไหลเวียนไปทั่วร่างกาย สิ่งนี้ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิด gynecomastia ได้อย่างมาก โดยไม่ลดระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนโดยรวมลงอย่างมาก (จึงทำให้ระดับ HDL คอเลสเตอรอลและเซโรโทนินอยู่ในระดับที่เหมาะสม)
Testosterone จะระงับการผลิตฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนภายนอกหลังไซเคิ้ล ทำให้เกิดความไม่ balance ในระดับฮอร์โมน เราพบว่าระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนตามธรรมชาติ จะใช้เวลาประมาณ 1-4 เดือนในการฟื้นตัว ขึ้นอยู่กับขนาดยา ระยะเวลาของรอบไซเคิ้ล และความถี่ที่บุคคลนั้นใช้สเตียรอยด์ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ของเรามักใช้ PCT เพื่อลดระยะเวลานี้ และยังส่งผลดีต่อจิตใจอีกด้วย (ทำให้พวกเขามีความรู้สึกเป็นอยู่ที่ดีตามปกติ)
Testosterone and Dianabol Cycle
week
1 Testosterone 200 mg
2 Testosterone 400 mg
3 Testosterone 400 mg Dianabol 10 mg/day
4 Testosterone 400 mg Dianabol 10 mg/day
5 Testosterone 400 mg Dianabol 20 mg/day
6 Testosterone 500 mg Dianabol 20 mg/day
7 Testosterone 500 mg Dianabol 20 mg/day
8 Testosterone 500 mg Dianabol 20 mg/day
9 Testosterone 500 mg Dianabol 20 mg/day
10 Testosterone 200 mg Dianabol 20 mg/day
นี่คือไซเคิ้ลการเพิ่มมวลกล้ามเนื้อทั่วไปที่ รวมสเตียรอยด์เพิ่มมวลกล้ามเนื้อที่ทรงพลังที่สุดสองตัวเข้าด้วยกัน การเติมDianabol เข้าไป จะช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อและความแข็งแรงได้อย่างมาก ดังนั้นเราจึงพบว่าผลข้างเคียงของแอนโดรเจนจะน้อยลงอย่างเห็นได้ชัดใน Dianabol อย่างไรก็ตาม มันมีความได้เปรียบเหนือTestosteroneในการเพิ่มกล้ามเนื้อและความแข็งแรง
Side Effects Testosterone และ Dbol สแตคนี้จะทำให้เกิดผลข้างเคียง
Dianabol, เป็นเตียรอยด์แบบกินจะทำให้ตับเป็นพิษ ดังนั้นจึงไม่ควรรับประทานเป็นเวลานาน ผู้ใช้ของเรามักจะรับประทานอาหารเสริมบำรุงตับ (เช่น tudca ) เพื่อป้องกันไม่ให้เอนไซม์ ALT และ AST เพิ่มขึ้นสูงเกินไป แม้ว่าtestosterone จะค่อนข้างไม่มีผลหัวใจ (แต่กับเธอมีผลแน่นอน) แต่กับDianabol ไม่ใช่ สาเหตุส่วนหนึ่งเป็นเพราะ Dianabol เป็นสเตียรอยด์ชนิดรับประทานที่มีฤทธิ์รุนแรง ซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องการทำให้ระดับคอเลสเตอรอลสูงขึ้น เนื่องจากไปกระตุ้นเอนไซม์ในตับ
testosterone และ Dianabol เป็นทั้งสารประกอบเอสโตรเจนและบวมน้ำ ดังนั้น gynecomastia จึงมีความเสี่ยงสูง เพื่อป้องกันสิ่งนี้ ควรใช้ SERM ที่มีประสิทธิผล (Nolvadex) ตลอดไซเคิ้ลทั้งหมด อย่างไรก็ตาม SERM จะไม่ป้องกันการกักเก็บของเหลวใดๆ
การกักเก็บน้ำเกือบจะแน่นอนกับคู่นี้ ทำให้ผู้ใช้รู้สึกบวมและกล้ามเนื้อดูเรียบเนียน ดังนั้นเราจึงพบว่าใช้ไซเคิ้ลนี้ได้ดีที่สุดในช่วงเพิ่ม หรือนอกฤดูการแข่ง(off season) เซ็ตนี้เหมาะกับมวลมากกว่าความสวยงาม
ระดับฮอร์โมนมีแนวโน้มที่จะลดลงหลังไซเคิ้ล ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีวิธีป้องกัน หลังไซเคิ้ลต้องใช้ HCG และ Clomid เพื่อที่จะฟื้นฟูการผลิตฮอร์โมนเพศชาย (ปกติภายใน 1-2 เดือน) การไม่ PCT อาจส่งผลให้ผู้ใช้ประสบอาการฮอร์โมนเพศชายต่ำเป็นเวลาหลายเดือน
แม้ว่า Dianabol จะไม่เป็นแอนโดรเจนโดนตรง แต่ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ (เนื่องจากมีฮอร์โมนเพศชาย):
1.ต่อมลูกหมากโต
2.สิว
Testosterone และ Deca Durabolin Cycle
week
1 Testosterone 600 mg Deca Durabolin 300 mg
2 Testosterone 600 mg Deca Durabolin 300 mg
3 Testosterone 600 mg Deca Durabolin 300 mg
4 Testosterone 600 mg Deca Durabolin 300 mg
5 Testosterone 600 mg Deca Durabolin 300 mg
6 Testosterone 600 mg Deca Durabolin 300 mg
7 Testosterone 600 mg Deca Durabolin 300 mg
8 Testosterone 600 mg Deca Durabolin 300 mg
9 Testosterone 600 mg Deca Durabolin 300 mg
10 Testosterone 600 mg Deca Durabolin 300 mg
เมื่อใช้ยาหลายตัวผลข้างเคียงจะมากขึ้นไปด้วย แต่..ไม่ใช่กับสองตัวนี้ Testosterone และDecaเป็นข้อยกเว้นโดยสารประกอบทั้งสองไม่ส่งผลกระทบต่อตับ และมีผลกระทบเพียงเล็กน้อยต่อคอเลสเตอรอลใน LPTs (lipid profile tests). ถ้าหาก Testosterone เป็นเตียรอยด์ที่ปลอดภัยที่สุดที่สามารถใช้ได้ Testosterone และ Deca ก็อาจเป็นวงจรที่ปลอดภัยที่สุดเช่นกัน
Deca เป็นอีกหนึ่งสเตียรอยด์ที่ช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อและความแข็งแรง อย่างไรก็ตาม, เนื่องจากความเป็นพิษเล็กน้อยของ Deca, จึงทำให้เป็นส่วนเสริมใช่ร่วมกันได้อย่างปลอดภัย
Side Effects Testosterone และ Deca
อย่างไรก็ตาม Deca Durabolin ไม่ได้ไม่มีผลข้างเคียง เนื่องจากมีชื่อเสียงในการทำให้เกิด ‘Deca Dick’ นี่คือเมื่อผู้ใช้ไม่สามารถแข็งตัวได้และ พบกับความใคร่ที่ลดลงไปพร้อมๆ กัน เราพบว่าสิ่งนี้มีสาเหตุมาจากความเป็นแอนโดรเจนต่ำของ Deca ควบคู่ไปกับการลดการผลิตฮอร์โมนเพศชายภายนอก DHT ช่วยกระตุ้นการผลิตไนตริกออกไซด์ ดังนั้นแอนโดรเจนที่อ่อนแอจึงส่งผลเสีย ต่อการไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะเพศชาย ดังนั้นควรทำให้ Testosterone สูงกว่า Deca เสมอ โดยเป็นสเตียรอยด์แอนโดรเจน ดังนั้นระดับ DHT จะยังคงสูงในระหว่างไซเคิ้ล
Deca ยังทำงานได้ดีกับ Testosterone เพราะต้องใช้รอบไซเคิ้ลที่ยาวและ ยังเป็นสเตียรอยด์ที่ออกฤทธิ์ช้าอีกด้วย ดังนั้น ถ้าคุณจะเพิ่ม Deca กับ Anadrol ตัวอย่างเช่น, มันไม่ใช่การผสมผสานที่ลงตัวเนื่องจาก Anadrol ไม่สามารถใช้เป็นระยะเวลานานได้เนื่องจากมีความเป็นพิษสูง. อย่างไรก็ตาม Testosterone สามารถใช้ได้เป็นระยะเวลานาน
มีความเสี่ยงเพิ่มเติมของ gynecomastia Deca ไม่ทำให้เกิด gynecomastia ในผู้ใช้ส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม โดยพื้นฐานแล้ว เราได้เห็น SERMs เช่น Nolvadex ทำให้ระดับฮอร์ progesterone ใน Deca รุนแรงขึ้น ดังนั้น AI อาจถูกนำ (เช่น anastrozole) ไปสู่ระดับที่ต่ำกว่า อย่างไรก็ตาม AI อาจทำให้ระดับความดันโลหิตแย่ลงได้ ดังนั้นผู้ใช้ควรกินยา AI เฉพาะในกรณีที่หัวนมเริ่มบวมเท่านั้น
***การปรับฮอร์โมน
ดังนั้น PCT ที่เกี่ยวข้องกับยาต่อไปนี้สามารถนำมารวมกัน เพื่อฟื้นคืนการผลิตฮอร์โมนเพศชายตามธรรมชาติ:
- HCG
- Nolvadex
- Clomid
Testosterone และ Trenbolone Cycle
week
1 Testosterone 600 mg Trenbolone 150 mg
2 Testosterone 600 mg Trenbolone 150 mg
3 Testosterone 600 mg Trenbolone 150 mg
4 Testosterone 600 mg Trenbolone 150 mg
5 Testosterone 600 mg Trenbolone 150 mg
6 Testosterone 600 mg Trenbolone 150 mg
7 Testosterone 600 mg Trenbolone 150 mg
8 Testosterone 600 mg Trenbolone 150 mg
9 Testosterone 600 mg Trenbolone 150 mg
10 Testosterone 600 mg Trenbolone 150 mg
นี่คือ bulking stack ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งมักจะสร้างกล้ามเนื้อและความแข็งแรงเพิ่มขึ้นอย่างมากTestosterone+Trenbolone จะสร้างขนาดเพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับไซเคิ้ลTestosterone+Dianabol แต่ไม่มีการบวมน้ำ
Trenbolone มีคุณสมบัติในการขับปัสสาวะจริงๆ ดังนั้นจึงเป็นตัวเลือกในการไดเอ็ทอีกด้วย Trenbolone เป็นสเตียรอยด์ที่ต้องการมากที่สุดในตลาดเมื่อผู้คนต้องการเพิ่มแรง มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ในขณะเดียวกันก็ดูแห้งและเพิ่มความเด่นชัดของเส้นเลือดบนผิวหนังอีกด้วย
ส่วนประกอบที่เป็นเอกลักษณ์ของสแต็คนี้คือ มีแอนโดรเจนมาก ดังนั้นจะมีการเบิร์นไขมันอย่างมาก เพิ่มความแข็งแรงและกล้ามเนื้อที่เพิ่มขึ้นมาก ผลการเผาผลาญไขมันนี้เกิดจากการที่ตัวรับแอนโดรเจนเพิ่มการแสดงออกของ CPTI (carnitine palmitoyltransferase I) ส่งผลให้มวลไขมันลดลง
Side Effects Testosterone และ Tren
Trenbolone + Testosterone แบบฉีด มีผลเสียหายต่อตับน้อย ความกังวลที่ใหญ่ที่สุดที่เราเห็นจากการใช้ Trenbolone คือความดันโลหิตที่พุ่งสูงขึ้น เนื่องจากไม่แปลงเป็นฮอร์โมนเอสโตรเจนและทำให้อัตราส่วนคอเลสเตอรอลบิดเบือนได้ การกินน้ำมันปลา 4 กรัมต่อวันช่วยให้ผู้ใช้บางรายรักษาความดันโลหิตให้คงที่ได
Trenbolone/Deca Durabolin มีฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนในระดับปานกลาง มีศักยภาพที่จะทำให้เกิด gynecomastia ดังนั้น ผู้ใช้อาจต้องการหลีกเลี่ยงการใช้ SERM เพื่อป้องกันระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนรุนแรงขึ้น
อาจใช้ AI แทนเพื่อป้องกันไจโน โดยให้การป้องกันทั้งฮอร์โมนเอสโตรเจนและ โปรเจสเตอโรน อย่างไรก็ตาม ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว AI อาจทำให้ความดันโลหิตแย่ลงได้ ดังนั้นจึงควรรวมไว้เฉพาะเมื่อผู้ใช้เริ่มสังเกตเห็นสัญญาณเริ่มต้นของ gyno (อาการบวมของหัวนม)
AI ยอดนิยม ได้แก่:
- Anastrozole (Arimidex)
- Exemestane (Aromasin)
- Letrozole (Femara)
ผมร่วงบนหนังศีรษะ ต่อมลูกหมากโต และสิวอักเสบเป็นผลข้างเคียงทั่วไปที่เราเห็นได้จากสแต็ค Test/Tren เนื่องจากเป็นไซเคิ้ลแอนโดรเจนสูง ผลข้างเคียงเหล่านี้ขึ้นอยู่กับพันธุกรรมของบุคคล โดยทั่วไป หากคุณประสบปัญหาสิวในช่วงวัยรุ่นหรือปัจจุบันมีเส้นผมร่วง ไซเคิ้ลนี้อาจจะรุนแรงขึ้นอย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งสองอย่าง
ผู้ที่ต้องการปกป้องรูขุมขนอาจรับประทานอาหารเสริมที่ปิดกั้น DHT อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ความคิดที่ดี เนื่องจากเราพบว่าอาหารเสริมดังกล่าวช่วยลดการได้รับ โดย DHT เป็นฮอร์โมนอะนาโบลิกสูง นอกจากนี้ จำเป็นต้องมีการ PCT hCG, Nolvadex และ Clomid ในไซเคิ้ล Test/Tren นี้เพื่อป้องกันไซด์เอฟเฟคเกือบทั้งหมด
week
1 Testosterone 200 mg Anavar 20 mg/day
2 Testosterone 400 mg Anavar 20 mg/day
3 Testosterone 400 mg Anavar 20 mg/day
4 Testosterone 400 mg Anavar 20 mg/day
5 Testosterone 400 mg Anavar 20 mg/day
6 Testosterone 500 mg Anavar 20 mg/day
7 Testosterone 500 mg Anavar 20 mg/day
8 Testosterone 500 mg Anavar 20 mg/day
9 Testosterone 500 mg
10 Testosterone 200 mg
ไซเคิ้ลข้างต้นได้รับการปรับแต่งสำหรับผู้ใช้สเตียรอยด์ระดับกลางที่ใช้ปริมาณปานกลาง ในทางกลับกัน มือใหม่อาจต้องใช้รอบแค่ 6-7 สัปดาห์ด้วยปริมาณที่ต่ำกว่า, เป็น 350 มก./สัปดาห์ สำหรับTestosterone และ 15 มก./วันของ Anavar สำหรับ 3 สัปดาห์แรก, ตามด้วย 20 มก./วันในช่วง 3 สัปดาห์สุดท้าย
Anavar เป็นสเตียรอยด์แบบกินซึ่งถือได้ว่าเป็นหนึ่งในสเตียรอยด์ที่ปลอดภัยที่สุด โดยทั่วไปจะมองว่า Anavar เป็นเตียรอยด์ในการคัทติ้งเนื่องจากผลการ เผาผลาญไขมันที่มีประสิทธิภาพ และจากความสามารถของ Anavar ในการเพิ่มอัตราส่วนของ T3 ถึง T4 ในร่างกาย กระตุ้นการเผาผลาญและการเบิร์นไขมัน
Anavar ยังเป็น anabolic อีกด้วย ทำให้กล้ามเนื้อและความแข็งแรงเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ประโยชน์ดังกล่าวค่อนข้างไม่รุนแรงเมื่อเทียบกับสเตียรอยด์ bulking ที่มีประสิทธิภาพ (เช่นฮอร์โมนเพศชาย) จากประสบการณ์ของเรา Mg สำหรับ mg, Anavar ในทางเทคนิคแล้วมี anabolic มากกว่าฮอร์โมนเพศชายถึง6 เท่า แต่ในความเป็นจริง สิ่งนี้ไม่ได้แปลว่ากล้ามเนื้อจะเพิ่มขึ้น ดังนั้น Testosterone และ Anavar สามารถใช้เป็นไซเคิ้ลการเผาผลาญไขมันในขณะที่เพิ่มมวลน้อย (เมื่อจำกัดปริมาณอาหารไม่ให้เกินที่ร่างกายต้องการ
Side Effects Test และ Anavar
Anavarจะทำให้ฮอร์โมนเพศชายแย่ลงหลังไซเคิ้ล โดยต้องใช้ PCT ขั้นสูงมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การทดสอบของเราแสดงให้เห็นว่าผลของ Anavar ต่อฮอร์โมนเพศชายนั้นไม่รุนแรงเมื่อเทียบกับสเตียรอยด์ชนิดอื่น Anavar ไม่อะโรมาติก หรือเพิ่มระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ดังนั้น ผู้ใช้จะไม่พบปัญหาการกักเก็บน้ำหรือภาวะ gynecomastia เรามักจะเห็น Anavar เปลี่ยนระดับคอเลสเตอรอล ลด HDL และเพิ่ม LDL ดังนั้นจึงควรคาดหวังว่าความดันโลหิตเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แม้ว่าจะเป็นสเตียรอยด์แบบกิน แต่ Anavar ก็ไม่มีความเสี่ยงต่อตับมากนัก เนื่องจากมีการเผาผลาญที่แตกต่างกัน (โดยไตจะรับภาระมากขึ้น) ผลข้างเคียงของ Androgenic เป็นไปได้ใน Anavar อย่างไรก็ตาม จะมีอยู่แล้วเนื่องจากมีฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนอยู่
Testosterone และ Anadrol Cycle
week
1 Testosterone 200 mg Anadrol 50 mg/day
2 Testosterone 200 mg Anadrol 50 mg/day
3 Testosterone 300 mg Anadrol 50 mg/day
4 Testosterone 300 mg Anadrol 75 mg/day
5 Testosterone 300 mg Anadrol 75 mg/day
6 Testosterone 350 mg Anadrol 75 mg/day
นี่คือไซเคิ้ล bulking ที่ทรงพลังมาก ในช่วงออฟซีซั่น แม้ว่ามันจะคล้าย Testosterone+Dianabol หากมีใครเคยทานฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนมาก่อน แต่ไม่ใช่Anadrolวัฏจักรนี้จะเพิ่มขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง ส่งผลให้กล้ามเนื้อระเบิดและมีความแข็งแรงทะลุหลังคา
อย่างไรก็ตาม, Anadrol เป็นเตียรอยด์แบบกินที่เป็นพิษมาก, ตับและหัวใจ,อาจเป็นพิษที่สุดของสเตียรอยด์ทั้งหมด ดังนั้น แม้ว่าการเพิ่มขึ้นจะมีความโดดเด่นในแง่ของขนาด และความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ แต่ผลข้างเคียงก็จะรุนแรงเช่นกัน
หมายเหตุ : เราเห็นได้ว่าไซเคิ้ลนี้ทำให้เกิดผลร้ายแรงในผู้เริ่มต้น ดังนั้น ผู้ใช้สเตียรอยด์ที่มีประสบการณ์เท่านั้นถึงใช้ Anadrol ร่วมกับ AAS อื่นๆได้
Side Effects Testosterone และ Anadrol
Anadrol จะทำให้เอนไซม์ AST และ ALT พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งทั้งสองอย่างนี้เป็นตัวบ่งชี้ความเครียดของตับ ดังนั้นการซัพพอทตับก็เป็นสิ่งสำคัญ Tudca เป็นอาหารเสริมที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในประสบการณ์ของเรา ในการลดความเป็นพิษต่อตับ
เพื่อพยายามรักษาความดันโลหิตให้ต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ผู้ใช้ควรรับประทานน้ำมันปลา 4 กรัมต่อวัน ร่วมกับการรับประทานอาหารที่คลีนและคาร์ดิโอเป็นประจำ แม้ว่าคาร์ดิโออาจเป็นสิ่งสุดท้ายที่นักเพาะกายต้องการทำเมื่อสร้างกล้ามเนื้อ แต่จะช่วยปกป้องหัวใจของคุณ ซึ่งหัวใจจะรู้สึกขอบคุณๆในปีต่อๆ ไป
Anadrol เป็นฮอร์โมนเอสโตรเจนมาก ทำให้เกิดการกักเก็บน้ำและ gynecomastia ที่อาจเกิดขึ้นในผู้ใช้จำนวนมาก อย่างไรก็ตามมันไม่อะโรมาติก, ดังนั้นการใช้ตัวยับยั้ง(aromatase) (AI) จะไม่ทำงานเพื่อป้องกันการกักเก็บไจโนและน้ำจาก Anadrol แต่สามารถใช้ SERM เช่น Nolvadex เพื่อช่วยป้องกันการทำงานของฮอร์โมนเอสโตรเจนในเนื้อเยื่อเต้านมได้โดยตรง เราพบว่านี่เป็นการรักษาที่ดีกว่า เนื่องจาก SERM ไม่ทำให้ความดันโลหิตสูงรุนแรงขึ้น (เมื่อเทียบกับ AI) Anadrol ยังมีแอนโดรเจน เพิ่มความเสี่ยงของ ปัญหาต่อมลูกหมาก ผมร่วง (บนหนังศีรษะ) สิว การใช้ Anadrol จะปิดระดับฮอร์โมนเพศชาย ดังนั้นผู้ใช้สามารถใช้งาน Nolvadex หลังไซเคิ้ล รวมกับ Clomid และ hCG เพื่อการฟื้นตัวที่รวดเร็ว
Testosterone, Anadrol, และ Trenbolone Cycle
week
1 Testosterone 300 mg Anadrol 150 mg
2 Testosterone 600 mg Anadrol 150 mg
3 Testosterone 600 mg Anadrol 50 mg Tren150 mg
4 Test 600 mg Anadrol 50 mg Tren 150 mg
5 Test 600 mg Anadrol 100 mg Tren 150 mg
6 Test 600 mg Anadrol 100 mg Tren 150 mg
7 Test 600 mg Anadrol 100 mg Tren 150 mg
8 Test 600 mg Anadrol 100 mg Tren 150 mg
9 Test 600 mg Anadrol 100 mg Tren 150 mg
10 Test 600 mg Anadrol 100 mg Tren 150 mg
11 Test 300 mg
ไซเคิ้ล ฮอร์โมนเพศชายที่รุนแรงที่สุด Anadrol/Tren/Test สเตียรอยด์ทั้งสามชนิดนี้รวมกันถือว่าค่อนข้างแรง แม้แต่กับนักเพาะกายที่มีประสบการณ์ ก็ควรใช้เท่าที่จำเป็น
หมายเหตุ โดยทั่วไปแล้ว IFBB Pro จะใช้ไซเคิ้ลอันทรงพลังนี้เท่านั้น โดยที่มวลกล้ามเนื้อทุกปอนด์ล้วนมีความสำคัญ สำหรับนักเพาะกาย ตำแหน่งของพวกเขาในการแข่งขันอาจจะ ส่งผลกระทบอย่างมากต่ออาชีพและข้อตกลงการเป็นสปอนเซอร์ของพวกเขา ดังนั้นบางคนจึงเต็มใจที่จะแลกสุขภาพของตนเองเพื่อความสำเร็จ
คำถามที่พบบ่อย Testosterone E C Prop Sus
ฉันสามารถฉีดฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนเข้าใต้ผิวหนังได้หรือไม่?
จากประสบการณ์ของเรา การฉีดฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนจะดีที่สุด เนื่องจากการฉีด Sub-Q อาจทำให้เกิดจุดระคายเคืองและทำให้น้ำมันอยู่เฉยๆ เนื่องจากจะต้องเผาผลาญก่อนที่จะถูกดูดซึม ผู้ใช้อาจพบว่าการฉีดยายุ่งยากน้อยลงหากหมุนกล้ามเนื้อที่ฉีดเข้าไป ตัวเลือกบางอย่าง ได้แก่ ก้น ต้นขา ไหล่ด้านข้าง นอกจากนี้ หากผู้ใช้ไม่พึงพอใจกับกระบวนการฉีด พวกเขาสามารถเลือกเอสเทอร์ที่ยาวขึ้นซึ่งต้องใช้การฉีดน้อยลง เช่น cypionate และ enanthate. การลดขนาดเข็มลงเหลือ 30 หรือ 25 จะทำให้ประสบการณ์การฉีดยาดีขึ้นและเจ็บปวดน้อยลง
สรุป
ฮอร์โมนเพศชายมีผลในการสร้างกล้ามเนื้อและการเผาผลาญไขมัน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากผลของอะนาโบลิกมีศักยภาพมากกว่า จึงมักใช้ในรอบ bulking เมื่อพูดถึง เอสเทอร์ เทสโทสเตอโรน ไม่จำเป็นต้องฉีดอะไรอื่นนอกจาก Enanthate หรือ Cypionate เนื่องจากมีราคาถูก พยายามใช้ให้น้อยกว่า และไม่จำเป็นต้องฉีดเป็นประจำ หรือถ้าอยากจะนับ detection time ว่าจะหมดในร่างกายเมื่อไหร่ก็ปรึกษาเป็นการส่วนตัวได้ที่ (ลิ้งไลน์)
ประสบการณ์ ความอดทน และวัตถุประสงค์ของบุคคลจะกำหนดไซเคิ้ลที่พวกเขาใช้ ไซเคิ้ลtestosterone เท่านั้นเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น ในขณะที่testosterone+anadrol อาจเหมาะสำหรับนักเพาะกาย ชั้นยอดที่สามารถทนต่อสารพิษได้อย่างดีกว่าคนเริ่้มใหม่ ในทำนองเดียวกัน คนที่ต้องการให้หัวใจและตับอยู่ในสภาพที่ เหมาะสมอาจสแต็ค Testosterone กับ Deca Durabolin หรือ Anavar ไม่ว่าจะใช้ไซเคิ้ลใดก็ตาม ร่างกายของบุคคลจะเปลี่ยนแปลงอย่างมากเมื่อมีtestosterone โดยที่กล้ามเนื้อจะระเบิดและแข็งแรงขึ้นกว่าที่เคยอย่างแน่นอน
หมายเหตุ : ก่อนที่จะใช้ควรไปพบแพทย์เพื่อให้แน่ใจว่าหัวใจ ไตและตับของคุณอยู่ในสภาพดี และตรวจดูอย่างสม่ำเสมอตลอดทุกๆ3-6เดือนเพื่อความปลอดภัยของตัวเราเอง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐
**สินค้า Test C/E/Prop**
➤ Test C
- alpha (250mg/1ขวด)
- gainz (300mg/1ขวด)
- plat (200mg/1ขวด)
- bp medical (250mg/1ขวด)
About Product :
- Testocyp is indicated for use in hormone replacement therapy, rejuvenation therapy, panhypopituitarism and female breast cancer.
- Long-acting testosterone ester, natural hormone provides solid muscle and strength gains, good beginner steroid.
Package Contents : Supplied in a clear 10ml glass vial with white flip-off cap & labeled box.
Appearance : Oil based solution.
Effective Dose : 500-750 mg in every other week
Use for : Cycle Period
➤ Test E
-
- alpha (250mg/1ขวด)
- body (250mg/1ขวด)
- medi (250mg/1ขวด)
- gainz (300mg/1ขวด)
- plat (300mg/1ขวด)
- synctech (300mg/1ขวด)
- bp medical (250mg/1ขวด)
About Product :
- Testoviron 300 is indicated for use in hormone replacement therapy, rejuvenation therapy, panhypopituitarism and female breast cancer
- Long-acting testosterone ester, natural hormone provides solid muscle and strength gains, good beginner steroid.
- Deep action testosterone ester. Recommended to be use as a beginners steroid.
- Testobolin is indicated for use in hormone replacement therapy, rejuvenation therapy, panhypopituitarism and female breast cancer.
Package Contents : Supplied in a clear 10ml glass vial with red flip-off cap & labeled box
Appearance : Oil based solution
Effective Dose : 500 mg -750 mg/week.
Use for : Cycle Period
➤Test Prop (100mg/1ขวด)
-
- alpha
- body
- gainz
- plat
- synctech
- bp medical
About Product :
- Very quick active testosterone ester for massive strength. Highly recommend for a beginner.
- Testoprop 100 is used in hormone replacement therapy, anti-aging and in treatment of muscular catabolism.
- Fast-acting testosterone ester. Great for strength and mass. Perfect for beginner, natural hormone.
Package Contents : Supplied in a clear 10ml (100mg/ml) glass vial with white flip-off cap & labeled box.
Appearance : Oil based solution
Dosage Form : 100 mg/ml
Effective Dose : 200 mg in every other day
Use for : Cycle Period
Reviews
There are no reviews yet.